เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2563 ที่ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร รองประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์และแพทยสภา พญ.เจรียง จันทรกมล ประธานคณะนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 8 (ปธพ.8) ในฐานะประธานโครงการเด็กไทยสู้ภัยโควิด Thai Kids Fight COVID (#TKFC) และผู้ร่วมสนับสนุนโครงการฯ แถลงข่าวความร่วมมือโครงการ ซึ่งศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ มีความห่วงใยน้องๆ ที่ขาดแคลน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาที่ใส่หน้ากากของผู้ใหญ่ไม่ได้ จึงได้มอบหมายให้ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษามูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ให้มาดูแลโครงการมูลนิธิฯ ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดทำหน้ากากผ้าสำหรับเด็ก เพื่อมอบให้น้องๆ โรงเรียนชั้นประถมในท้องถิ่นทุรกันดาร และโรงเรียน ตชด. ที่ตั้งอยู่บนดอยบนเขา

พล.อ.ต.นพ. อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ กล่าวว่า เมื่อเดือนเม.ย.-มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์และคณะนักศึกษาหลักสูตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1-8 ได้ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดโครงการอาสาร่วมใจสู้ภัย COVID เพื่อสนับสนุนทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งโครงการฯได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์และทุนทรัพย์จากภาคีเครือข่ายและประชาชนอย่างกว้างขวาง ได้มีการจัดคาราวานเพื่อนำอุปกรณ์เหล่านี้ไปยังจังหวัดสงขลา เชียงใหม่ และขอนแก่น รวมทั้งการจัดส่งสิ่งของเครื่องใช้อาหารแห้งและนมผงสำหรับเด็กไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนที่จังหวัดภูเก็ตด้วย

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของโครงการซึ่งสิ้นสุดเมื่อ 30 มิ.ย. 2563 ได้มีการบริหารจัดการ จัดหาและจัดสรรอย่างโปร่งใสตามความประสงค์ของทุกฝ่ายทำให้โครงการที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

สำหรับโครงการ “เด็กไทยสู้ภัยโควิด” หรือ “Thai Kids Fight Covid”(#TKFC) เป็นโครงการต่อเนื่องจาก #อาสาร่วมใจFightcovid โดย นักศึกษา ปธพ.1-8 ทั้งนี้ โครงการ เด็กไทยสู้ภัยโควิด Thai Kids Fight COVID (TKFC) “จัดหาหน้ากากผ้าเพื่อน้องประถม” เล็งเห็นถึงความสำคัญของหน้ากากผ้าที่จะช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคของเด็กๆ ในช่วงเปิดเทอม ซึ่งมาตรการการป้องกันและคัดกรองเพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อในโรงเรียน ที่สำคัญคือการสวมหน้ากากในระหว่างอยู่ที่โรงเรียน โดยหน้ากากผ้าสำหรับเด็กมีความแตกต่างกับของผู้ใหญ่เช่น ขนาดที่เหมาะสมกับสรีระ และวัตถุดิบที่นำมาต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความทนทาน รวมทั้ง สีสันเพื่อเพิ่มความน่าใช้ รวมทั้งคุณภาพและความปลอดภัย หน้ากากสำหรับเด็กจึงต้องมีขนาดที่เหมาะสมสามารถปรับขนาดได้กับสรีระ รวมทั้งต้องดูแลรักษาง่าย และให้เด็กๆ สามารถเขียนชื่อที่หน้ากากได้เพื่อป้องกันการสูญหายหรือสลับกัน ซักได้หลายครั้งเพื่อประหยัด

ทั้งนี้ หน้ากากจากโครงการจะมอบให้เด็กระดับประถมต้น (ป.1-4) คนละ 1 ชุดๆ ละ 2 ชิ้น โครงการนี้ได้รับความอนุเคราะห์สนับสนุนการผลิตและร่วมมือ จากภาคเอกชน ได้แก่ บริษัท สุภารา จำกัด (GQ) บริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด (NARAYA) บริษัท ซาบีนา จำกัด (มหาชน) (SABINA) – มูลนิธิคุณแม่จินตนา ธนาลงกรณ์ ทั้งนี้ ทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมสนับสนุนการผลิตหน้ากากให้กับโครงการ TKFC ในราคาพิเศษ และมี กิจกรรม (แคมเปญ) ร่วมบริจาคหน้ากากผ้าสำหรับเด็กให้โครงการฯ 1 ชิ้นเมื่อมีผู้ซื้อหน้ากากผ้า 1 ชิ้นอีกด้วย ผู้สนับสนุนทั้ง 3 บริษัท จะร่วมบริจาคหน้ากากผ้าสำหรับเด็กเข้าสู่โครงการ TKFC ไม่น้อยกว่าบริษัทละ 25,000 ชิ้น ในช่วงระยะเวลากรกฎาคมถึง 15 ส.ค. 2563

ทั้งนี้ ประชาชนผู้สนใจสามารถร่วมสนับสนุนโครงการ TKFC ได้โดยการซื้อหน้ากากผ้าสำหรับเด็กจากบริษัทผู้สนับสนุนข้างต้นตาม campaign ข้างต้น หรือร่วมบริจาคให้กับมูลนิธิฯ ได้ที่ ชื่อบัญชี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ ธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าเรือสาธุประดิษฐ์ เลขที่บัญชี 048-1-10901-9 สำหรับโรงเรียนในกลุ่มเป้าหมายแรก ได้แก่ 1. โรงเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารในพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และ 2.โรงพยาบาลที่จะเข้าร่วมในโครงการร่วมกับโรงเรียนในเครือข่ายและในพื้นที่ของโรงพยาบาลเป็นการทำงานแบบบูรณาการ ได้แก่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช จำนวน 21 แห่ง โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 11 แห่ง และโรงพยาบาลในเครือข่ายของนักศึกษา ปธพ. รุ่นที่ 1-8

อย่างไรก็ตาม นอกจากการมีหน้ากากสวมใส่แล้ว ยังต้องสอนน้องๆ เล่นอย่างระมัดระวัง รักษาระยะห่าง และต้องล้างมือสม่ำเสมอ โครงการนี้ จึงได้รับเกียรติจาก นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล หรือคุณหมอโอ๊ค น้องอลิน-อลัน มาช่วยให้ความรู้แบบน่ารักๆ ผ่านคลิปวีดีโออีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน