นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีมติอนุมัติหลักการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) ในโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ทั้งในส่วนของการบริหารการเดินรถ การบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสถานี และงานก่อสร้างส่วนต่อขยายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เพราะการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมทุนในรูปแบบ พีพีพีพีเป็นแนวทางที่จะช่วยประหยัดงบประมาณภาครัฐได้มาก ขณะที่ปัจจุบันรัฐมีความจำเป็นต้องนำงบประมาณไปใช้กับการเยียวยาผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งหากการใช้งบประมาณจากภาครัฐลงทุนอย่างเดียวเป็นเรื่องที่ยาก

นอกจากนี้ ผลการศึกษาของรฟท. ยังพบว่าเมื่อเปรียบเทียบระหว่างรูปแบบที่รฟท. จะบริหารเอง กับเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนนั้น รูปแบบให้เอกชนร่วมทุนมีความคุ้มค่ามากกว่า เพราะผลการศึกษาพบว่าในช่วงเดินรถ 7 ปีแรก จะอยู่ในภาวะขาดทุน ดังนั้นความเสี่ยงเหล่านี้ หากจะนำมากระจายกับผลตอบแทนด้านอื่นๆ ที่เปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุน ถือเป็นแนวทางที่ดีกว่า

“รฟท. จะต้องเสนอมติที่ประชุมมายังกระทรวงคมนาคม ก่อนไปคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเปิดประมูลได้อย่างเร็วในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 หรืออย่างช้าในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564”

สำหรับความคืบหน้าของการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ขณะนี้คาดว่าจะต้องเลื่อนเปิดเป็นปี 2566 จากเดิมมีกำหนดเปิดในเดือน ม.ค. 2564 เนื่องจากเอกชนได้เสนอขอขยายอายุสัญญางานก่อสร้าง ส่วนของสัญญา 1 งานโยธาสำหรับสถานีกลางบางซื่อ ออกไปอีก 500 วัน รวมทั้งยังไม่ต้องการให้เร่งเปิดเดินรถและกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน เพราะเมื่อสถานีกลางบางซื่อยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ก็อาจกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการรถไฟ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน