‘พิพัฒน์’ เล็งชงครม.ส.ค.นี้ เปิดเฟส 2 เราเที่ยวด้วยกัน รัฐอุดหนุนเพิ่มมากกว่า 40% – ชวนเที่ยวเมืองรองและวันธรรมดา
ชงเฟส2เราเที่ยวด้วยกัน – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า อีก 2 สัปดาห์หรือประมาณต้นเดือนส.ค.นี้ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ระยะที่ 2 (เฟส 2) เพื่อกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวไทยให้รีบจองห้องพัก หลังจาก www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เปิดให้ประชาชนผู้ได้รับสิทธิเข้าจองห้องพักเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่า 2 วันแรกมียอดชำระเงินค่าห้องพัก 87,960 สิทธิ
ทั้งนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่ากำลังซื้อภายในไม่ดี เพราะเพิ่งเปิดให้จองเพียงไม่กี่วัน แต่ไม่เกิน 2 สัปดาห์กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเฟส 2 ด้วยการสนับสนุนท่องเที่ยวเมืองรองและวันธรรมดา ให้รัฐช่วยจ่ายสนับสนุนค่าที่พักในอัตราที่มากกว่า 40% เพราะคาดว่าจะมีเงินเหลือจากวงเงิน 18,000 ล้านบาท โดยได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการเบื้องต้นแล้ว ทางนายกฯไม่ขัดข้อง
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. จะเสนอต่อที่ประชุม ครม. พิจารณาขยายเกณฑ์เอาโรงแรมที่ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อเพิ่มซัพพลายห้องพักในวันนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากปัจจุบันมีโรงแรมเข้าร่วมโครงการฯ 5,000 แห่ง ขณะที่หลายๆ โรงแรมยังปิดให้บริการชั่วคราวอยู่ โดยเฉพาะโรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก และไม่มั่นใจว่าหากกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง กำลังซื้อในประเทศจะทดแทนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังเดินทางเข้ามาไม่ได้หรือไม่
แต่ในมุมผู้ประกอบการโรงแรมถือว่าค่อนข้างน่าพอใจ อย่างน้อยก็มียอดจองห้องล่วงหน้าเข้ามา ดีกว่าเดิมที่มีอัตราเข้าพักเพียง 0-5% ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาดหนัก โดยส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปในช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ จนถึงกลางเดือนส.ค.นี้ นิยมจอง 1 คืนสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลภาคตะวันออกกับภาคตะวันตก และนิยมจอง 2 คืนสำหรับการเดินทางไปภาคใต้ อันดับ 1 คือ จ.กระบี่
แม้ยอดจองห้องพักเมื่อวันที่ 18-19 ก.ค.ที่ผ่านมา จะมีไม่ถึง 1 แสนคืน มีสิทธิคงเหลือกว่า 4.9 ล้านคืน จากโควตา 5 ล้านคืน อาจจะชี้ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวไทยระมัดระวังการใช้จ่าย ทำให้ไม่สามารถหวังผลเรื่องการใช้จ่ายได้ ต้องเน้นกระตุ้นจำนวนวันพักค้างและเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อให้อัตราเข้าพักทั่วประเทศสูงกว่าจุดวิกฤตไม่ต่ำกว่า 28%
