ภาคเอกชนท่องเที่ยววอนรัฐตั้งกองทุนแสนล้าน ปล่อยกู้ท่องเที่ยว-ร้านอาหาร ทัวร์เตรียมปิดกิจการ ตกงานอีกไม่น้อยกว่า 2.5 ล้านคน

วอนรัฐตั้งกองทุนแสนล้าน – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่การการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย (ททท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยว โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ว่า เอกชนเสนอรัฐบาลจัดตั้งกองทุน 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นสภาพคล่องดูแลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย 13 สาขาวิชาชีพเป็นการเฉพาะ หลังจากภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 อย่างมากทำให้หลายกิจการตั้งแต่โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ ได้รับผลกระทบจนถึงขั้นปิดกิจการคาดมีคนตกงานอีก 2.5 ล้านคน จากแรงงานท่องเที่ยวทั้งระบบ 4 ล้านคน

น.ส.ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวตอนนี้ยอมรับเลยว่าแย่จริงๆ หลายธุรกิจไม่มีรายได้มากกว่า 6 เดือน รายจ่ายยังเดินต่อ ส่วนเงินกู้ที่รัฐบาลช่วยเหลือในหลายช่องทางเข้าไม่ถึง ถ้านับเฉพาะโรงแรมตอนนี้มีบางแห่งหายไปแล้ว 30% แต่ถ้าโควิด-19 ไม่จบ และไม่มีมาตรการช่วยเหลือคงถึงครึ่งแน่ๆ กลุ่มธุรกิจโรงแรมที่พัก เป็นลูกค้าที่กู้เงินจากธนาคารรวม 7 แสนล้านบาท แยกเป็นโรงแรม 3 แสนล้านบาท และสถานที่พักแรมและร้านอาหาร 4 แสนล้านบาท หากไม่มีการช่วยเหลือเชื่อว่ากลุ่มแรกที่จะต้องปิดกิจการมากกว่าครึ่ง เงินกู้ประมาณ 2 แสนล้านบาท คงเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)

นอกจากนี้ ยังเสนอรัฐผ่อนปรนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ต้องไม่มีเงื่อนไขมาก หรือเป็นการปล่อยกู้ในเงื่อนไขพิเศษภายใต้ภาวะวิกฤต เพราะปัจจุบันซอฟต์โลนของออมสิน วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท มีเอกชนกู้ได้เพียง 390 ราย คิดเป็นวงเงินเพียง 1,000 ล้านบาท

นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นอกเหนือจากกลุ่มที่รัฐบาลกำหนดเอาไว้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ โดยการเข้ามาต้องมีเงื่อนไขพิเศษที่มากกว่าการจับคู่ประเทศเดินทาง (ทราเวลบับเบิล) โดยการคัดนักท่องเที่ยวคุณภาพจากตลาดระยะไกล และใกล้ ที่มีความเสี่ยงต่ำ หรือมีสถานการณ์ปลอดการติดเชื้อเท่าๆ กับไทย

กำหนดไตรมาส 4 ปีนี้ เป้าหมายนักท่องเที่ยว 5 แสนคน สร้างรายได้ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ และการันตีการปลอดเชื้อโรค เพราะจะมีการตรวจตั้งแต่ต้นทางและปลายทางอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้มีจังหวัดที่น่าจะทำได้คือ ภูเก็ต และกระบี่ หากไม่เร่งทำเชื่อว่าเอกชนจะต้องหนีไม่พ้นการปิดกิจการแน่ อย่างเช่นในกลุ่มบริษัททัวร์ ตอนนี้มีปิดไปแล้ว 30%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน