ททท. ลุ้นโควิดซาปี’64 ไทย-ต่างชาติได้เที่ยว – ดันรายได้ 1.5 ล้านล้าน ตั้ง 3 สมมติฐานเลวร้ายสุดฟื้นตัวปลายปี’64 รายได้เหลือแค่ 6 แสนล้าน เหตุคนไทยยังต้านฝรั่ง
ททท.ลุ้นโควิดซาปี’64 – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. จัดทำคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวปี 2564 ไว้ 3 สถานการณ์ โดยในกรณีสถานการณ์เลวร้ายสุดจะมีรายได้ประมาณ 675,700 ล้านบาท และสถานการณ์ดีที่สุดจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1,525,341 ล้านบาท หรือเติบโต 105% จากปี 2563 ที่มีรายจากการท่องเที่ยวประมาณ 742,500 ล้านบาท จากเดิมยุทธศาสตร์ 20 ปี ของสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ตั้งเป้าปี 2564 มีรายได้จากการท่องเที่ยวไว้ที่ 3,936,629 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 430% จากปีก่อนหน้า
สำหรับ 3 สถานการณ์ ที่คาดการไว้มีดังนี้ 1. สถานการณ์การฟื้นตัวเร็ว จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1,525,341 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 977,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 20.5 ล้านคน แต่จะเกิดขึ้นภายในสมมติฐานการฟื้นตัวประมาณช่วงต้นปี 2564 หรือไตรมาสที่ 2 โดยมีการเริ่มเปิดให้เที่ยวบินพาณิชย์เข้าไทยประมาณเดือนเม.ย.- มิ.ย. จากตลาดระยะใกล้จากเอเชียและในอาเซียนเป็นหลัก ส่วนการกลับมาของตลาดยุโรปอย่างชัดเจนจะเกิดในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนในเดือนก.ค.-ส.ค. เป็นต้นไป โดยจะมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีกลับมาราว 50%
ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวคนไทยจำนวน 89.24 ล้านคน-ครั้ง คาดว่าจะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 548,341 ล้านบาทหลังจากไม่พบการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศและมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงสิทธิประโยชน์เที่ยวในประเทศได้มากกว่าเที่ยวต่างประเทศ
2. สถานการณ์การฟื้นตัวระดับปานกลางหรือช่วงปลายปี 2564 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 1,108,500 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 617,500 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12.5 ล้านคน จากการเริ่มเปิดให้เที่ยวบินพาณิชย์เข้าไทยในไตรมาส 3 เบื้องต้นจะเป็นการเดินทางจากตลาดระยะใกล้เป็นหลัก เสริมด้วยการกลับมาของตลาดยุโรปบางส่วนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนในเดือนก.ค.-ส.ค. และตลาดยุโรปจะฟื้นกลับมาชัดเจนช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีราว 30%
ส่วนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยคาดมีจำนวน 84.92 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 491,000 ล้านบาท หลังจากมีความมั่นใจและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เมื่อไม่พบการติดเชื้อในประเทศและมีการขยายตัวของผลิตภัณมวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประมาณ 5% แต่ยังไม่ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยดัชนีผู้บริโภคยังติดลบอยู่ที่ 3%
และ 3. สถานการณ์ไม่ฟื้นตัวหรือฟื้นตัวช่วงปลายปี 2564 จะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 675,700-754,800 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ต่างประเทศ 296,000 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.14 ล้านคน เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกไม่สามารถควบคุมได้ ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยว โดยการเดินทางจะเป็นนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะใกล้เป็นหลัก โดยคาดว่าจะมีที่นั่งเที่ยวบินทั้งปีกลับมา 15%
อย่างไรก็ตาม กรณีควบคุมโควิดไม่ได้ในหลายประเทศยังมีการระบาด ไทยจะมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ แบ่งเป็น 2 กรณี คือ กรณี 1 Lockdown เฉพาะบางจังหวัดท่องเที่ยวหลัก-รอง Lockdown เฉพาะบางจังหวัดท่องเที่ยวหลักหรือเมืองรองที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านและมีศักยภาพในการรองรับการท่องเที่ยว เศรษฐกิจภาพรวมในไตรมาส 2 ติดลบ 3% เทียบกับปี 2562 โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยจะมีประมาณ 76.20 ล้านคน-ครั้ง รายได้ 458,800 ล้านบาท
ส่วนกรณี 2 Lockdown ทั้งประเทศ และเศรษฐกิจปี 2564 ติดลบ 8% เทียบกับปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยประมาณ 68.40 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 379,700 ล้านบาท
ด้านปัจจัยอุปสรรคในการกระตุ้นการท่องเที่ยวปี 2564 มีหลายปัจจัย ตั้งแต่การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังไม่มีแนวโน้มสิ้นสุด ภาวะเศรษฐกิจโลกปี 2564 ฟื้นตัวแต่ไม่เต็มที่ สถานการณ์ธุรกิจการบินประสบปัญหาขาดทุนเสี่ยงต่อการล้มละลาย และทัศนคติชาวไทยต่อการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเป็นลบ
ขณะที่ปัจจัยบวกมีภาพลักษณ์ที่ดีด้านสาธารณสุขมาตรฐาน SHA“สาธารณสุขของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลกและเป็นอันดับที่ 1 ของเอเชียจากการจัดอันดับของ John Hopkins University และองค์กร Nuclear Threat Initiative รายงานดัชนีความมั่นคงด้านสุขภาพ (2019 Global Health Security Index)
รวมถึงมีภาพลักษณ์การควบคุมเชื้อที่ดีเป็นประเทศที่รับมือกับโรคระบาดและฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีติดอันดับ 2 ของโลกและอันดับ 1 ของเอเชียโดยองค์กร Global COVID-19 (GCI) และยังติดผลการค้นหาแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวผ่านระบบ Skyscanner เพื่อวางแผนท่องเที่ยวช่วงเดือนธ.ค. 2563-ก.พ. 2564
