นายพลภัทร นิติธรรมยง ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารบริษัท เบบี้ สวิมมิ่ง แฟมิลี่ จำกัด ผู้ให้บริการโรงเรียนสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก “เบบี้ สวิมมิ่ง” เปิดเผยว่า หลังจากกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ภายใต้วิถีชีวิตแบบใหม่ New Nomal ที่ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัย ความสะอาด และเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้พ่อแม่ได้นำลูกมาใช้บริการเป็นปกติเหมือนเดิมแล้วในระยะที่รวดเร็ว เนื่องจากการเรียนว่ายน้ำถือเป็นทักษะที่สำคัญ และจำเป็นสำหรับเด็กๆ ที่สำคัญไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้
ประกอบกับตลาดโรงเรียนว่ายน้ำสำหรับเด็ก มีลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงพร้อมจะจ่ายเงินให้กับลูกๆ อย่างเต็มที่ จึงทำให้ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบ ทั้ง ภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาทางการเมือง ซึ่งเพิ่งจะกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องปิดให้บริการไปกว่า 3 เดือน แต่ก็สามารถกลับมาได้ในระยะรวดเร็ว ดังนั้นเห็นว่าแนวโน้มตลาดในภาพรวมจะเติบโตสูงหลังจากนี้ เพราะตลาดยังมีศักยภาพอีกมาก เห็นจากอัตราการเกิดของเด็กอยู่ที่ 8 แสนคนต่อปี แต่มีเด็กที่เรียนว่ายน้ำเพียง 2 แสนคน และที่เหลืออีก 6 แสนคน ประมาณ 50% พ่อแม่มีกำลังซื้อสูง และเห็นความสำคัญในเรื่องให้ลูกเรียนว่ายน้ำเพิ่มมากขึ้น
จากความต้องการเพิ่มทักษะด้านการว่ายน้ำของเด็ก และจำนวนโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กและทารกที่ยังมีจำนวนไม่เพียงพอ บริษัทจึงมีแผนเพิ่มสาขาของโรงเรียนในปี 2564 อย่างน้อย 15 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งมี 2 สาขาเซ็นสัญญากับทางแฟรนไชส์แล้ว ส่วนอีก 2 สาขาเป็นของแฟรนไชส์ที่อยู่ในแผนงาน จากปัจจุบันมีอยู่ 11 สาขา เป็นสาขาของบริษัทเอง 6 สาขา และที่เหลือเป็นของแฟรนไชส์ โดยใช้เงินลงทุนสาขาละ 10 ล้านบาท ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีคืนทุน หลังจากนี้วางแผนจะเปิดปีละ 3 สาขา ทั้งในรูปแบบการให้แฟรนไชส์ และการร่วมทุน เพื่อผลักดันรายได้ให้เติบโตปีละ 20-30%
นางณัฏฐ์วิภา นิติธรรมยง ผู้ก่อตั้ง และผู้บริหาร กล่าวว่า เบบี้ สวิมมิ่ง เปิดให้บริการมาแล้ว 6 ปี สอนว่ายน้ำเด็กตั้งแต่อายุ 4 เดือนจนถึง 12 ปี ถือว่าเป็นรายแรกๆ ในตลาด และ เป็นโรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กและทารกมาตรฐาน ISO แห่งเดียวในประเทศไทย โดยนำมาตรฐานการบริการแบบญี่ปุ่นมาใช้ และนำโครงสร้างหลักสูตรการเรียนมาจากออสเตรเลีย แต่หลักสูตรทั้งหมดเขียนเองเพื่อให้เหมาะกับคนไทย ซึ่งให้บริการการเรียนเป็นคอร์สๆ ละ 8,000 บาท เวลา 11 สัปดาห์ และสามารถเรียนได้ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีฐานเด็กเรียนมากกว่าพันราย และกว่า 50% มีการเรียนต่อเนื่อง
