‘ประภัตร’ ยันหมูตายไม่ใช่อหิวาต์แอฟริกาในหมู ชี้เป็นแค่ไข้หวัดเพิร์ช – เล็งหารือผู้เลี้ยงสกัด สั่งปศุสัตว์ตั้ง 2 ด่าน ‘ลำปาง-ตาก’ หวั่นระบาดลงภาคกลาง

‘ประภัตร’ยันหมูตายไม่ใช่อหิวาต์ – นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเชิญสมาคมผู้เลี้ยงหมูเข้าหารือแนวทางรับมือการระบาดของไวรัสในหมู ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ ในหลายจังหวัด อาทิ แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ตาก เป็นต้น หลังศูนย์วิจัยและพัฒนาสัตวแพทย์ภาคเหนือตอนบน และปศุสัตว์จังหวัดลงพื้นที่พบหมูตายจำนวนมาก เบื้องต้น พบหมู ติดเชื้อไวรัสพีอาร์อาร์เอส (Porcine reproductive and respiratory syndrome) หรือเรียกว่าโรคเพิร์ช เป็นโรคระบาดหมู ที่ไม่ติดต่อสู่คน โดยสั่งให้ปศุสัตว์จังหวัดแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ ที่มีหมูป่วยตาย อย่านำหมูไปจำหน่าย หรือ บริโภค เพราะตามขั้นตอนการตัดตอนโรคระบาดของกรมปศุสัตว์ เพื่อไม่ให้โรคระบาดกระจายเป็นวงกว้าง

โรคเพิร์ช เป็นกลุ่มโรคที่มีอาการทางระบบสืบพันธุ์และทางเดินหายใจในหมู หากหมูติดเชื้อสามารถขับเชื้อไวรัสผ่านทาง สารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลาย น้ำเชื้อ รวมทั้งปัสสาวะ อุจจาระ และน้ำนม หมูที่ติดโรคเพิร์ชจะมีไข้สูงคล้ายกับคนเป็นโควิด-19 ตรวจพบไม่นานก็ตาย ไม่เกิน 2-3 วัน วิธีที่สามารถยับยั้งการระบาด คือการตัดตอนไม่ให้ไปติดต่อสู่หมูคอกอื่นๆ

“เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำลายหมูของเกษตรกรในคอกและคอกใกล้เคียง เพื่อลดความเสี่ยงของโรคระบาด หลังการตรวจสอบในจังหวัดลำพูน พบหมูมีไข้สูงคล้ายคนเป็นโควิด ท้องเสีย ผิวแดง ทางเดินหายใจไม่สะดวก ตายไปแล้วประมาณ 23 ตัว จึงสั่งการให้ปศุสัตว์ส่วนกลางระดม กำลังขึ้นไปตรวจสอบและควบคุม และเตรียมตั้งด่านใน 2 จังหวัด คือ ลำปาง และตาก เพื่อสกัด ไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายหมูลงภาคกลาง”

นายประภัตร กล่าวว่า ยืนยันสาเหตุหมูตายในพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ใช่โรคอหิวาต์แอฟริกาในหมู หรือ เอเอสเอฟ แน่นอน เพราะไทยมีแผนรับมือการระบาดของเอเอสเอฟ เป็นวาระแห่งชาติภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณดำเนินการ 3 ปี (พ.ศ. 2562 – 2564) ซึ่งขณะนี้ยังคงดำเนินการอย่างเข้มงวด ภายใต้ 3 ระยะคือ 1. ระยะก่อนเผชิญเหตุระบาด 2. ระยะเผชิญเหตุระบาด และ 3. ระยะหลังเผชิญเหตุระบาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน