นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้นายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมเปิดตัว “หมู่บ้านอินทรีย์” ที่หมู่บ้านน้ำซับ หมู่ 11 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย. 2563 โดยทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาจะเข้ามาส่งเสริมให้มีกิจกรรมต่อเนื่องไปทุกเดือน เพื่อเสริมสร้างโอกาสให้เกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่กว่า 300 ครัวเรือนได้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าอินทรีย์ ซึ่งจะนำมาสู่การเจรจาทางธุรกิจเพื่อต่อยอดการขยายตลาดทั้งในประเทศจนถึงส่งออก อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแลกเปลี่ยนความองค์ความรู้และให้คำปรึกษา ตลอดจนการสัมมนาวิชาการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันในระดับสากลได้

ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลก เปลี่ยนไปสู่กระแสรักษ์สุขภาพและจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด19 ส่งผลให้ความต้องการสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ?และอนามัย ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า ตลาดเกษตรอินทรีย์โลกมีมูลค่าสูงถึง 3 ล้านล้านบาท มีจำนวนเกษตรกรอินทรีย์ทั่วโลก รวมแล้วกว่า 2 ล้านคน มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ และพื้นที่ระยะปรับเปลี่ยนสู่เกษตรอินทรีย์รวมกันประมาณ 273 ล้านไร่ ประเทศที่มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์มากที่สุด คือ อินเดีย ยูกันดา และเม็กซิโก สำหรับประเทศไทยนั้น มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ประมาณ 235,000 ไร่ จำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์มีประมาณเกือบ 10,000 ฟาร์ม มีผลผลิตมากกว่า 80,000 ตันโดยมูลค่าการส่งออกคิดเป็นประมาณ 4 พันล้านบาท ตลาดส่งออกเกษตรอินทรีย์ไทยที่สำคัญคือ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้วางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดสินค้าอินทรีย์ปี 2560-2564 ไว้ 4 ยุทธศาสตร์ประกอบด้วย 1. การสร้างการรับรู้ของผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิต 2. ผลักดันมาตรฐานและระบบการรับรองเกษตรอินทรีย์ 3. พัฒนาและขยายตลาดสินค้าและบริการอินทรีย์ และ 4. สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและบริการอินทรีย์ ซึ่งกิจกรรมเปิดงานหมู่บ้านอินทรีย์ ที่บ้านน้ำซับ หมู่ 11 ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา จะมีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างกระแสการบริโภค Organic Life Style เพิ่มทางเลือกการบริโภคสิ่งที่มีประโยชน์ปราศจากสารเคมีและสารพิษตกค้าง ให้กับประชาชน ถือเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความรับรู้และตระหนักรู้ในวงกว้างเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการบริโภคสินค้าอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชน นำไปสู่การสร้างความเข้มแข็งและกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของชุมชน

“สหกรณ์กสิกรรมไร้สารพิษในเขตปฏิรูปที่ดิน อ.วังน้ำเขียว จำกัด ดำเนินการมาแล้ว 20 ปี มีกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ชุมชนแห่งนี้ยังคงทำกำไรจากการขายสินค้าออแกนิคได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว และกำลังจะยกระดับการผลิตไปสู่การแปรรูป ปัจจุบันเกษตรกรมีรายได้จากการปลูกผักออแกนิคเฉลี่ยไร่ละ 10,000 บาทต่อเดือน ส่งสินค้าได้สัปดาห์ละ 3 วันเท่านั้น เนื่องจากสินค้าผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่มีปัญหาด้านการตลาด ผมจึงเข้ามาส่งเสริมให้ศูนย์กสิกรรม ไร้สารพิษ วังน้ำเขียวแห่งนี้ เป็นต้นแบบหมู่บ้านอินทรีย์ หรือ Organic Village ที่มีการผลิตสินค้าได้คุณภาพมาตรฐาน มีช่องทางการตลาดและรายได้อย่างมั่นคงในอาชีพ และชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการต่อยอด ขยายการรวมกลุ่มของเกษตรกรวังน้ำเขียวไปสู่เกษตรกรกลุ่มอื่น เพื่อสร้างเครือข่ายและอำนาจต่อรอง อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งของเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนจะมีเชื่อมโยงพัฒนาตลาดและการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอินทรีย์สู่หมู่บ้านอินทรีย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและรายได้สู่ชุมชนอื่นๆ ต่อไปในอนาคตด้วย”รมช.พาณิชย์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน