นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว. พาณิชย์ กล่าวว่า ไทยจะเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEM (เออีเอ็ม) ในระหว่างวันที่ 6-11 ก.ย.นี้ ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ซึ่งในการประชุมจะมีการพบหารือระหว่างรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน กับคู่เจรจา 6 ประเทศ ประกอบด้วย จีน ออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลี นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น เพื่อเร่งรัดผลักดันให้การเจรจาอาร์เซป (RCEP) ให้มีข้อสรุป ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งออกมา เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และขณะนี้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือ TPP ยังไม่สามารถตกลงกันได้

ในการประชุมจะหารือกันในเรื่องการเปิดเสรีทางการค้า ที่จะต้องลดภาษีนำเข้าสินค้า เหลือ 0% โดยจะหยิบยกประเด็นที่ยังติดขัด ที่จะต้องมีการแลกเปลี่ยนรายการสินค้าที่จะต้องดลภาษี โดยทางที่ประชุมอาเซียนก่อนหน้านี้มีเป้าหมายที่จะให้ลดภาษีลง 92% ของรายการสินค้าทั้งหมด ภายใน 15 ปี แต่การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมา ยังมีปัญหา หลายประเทศ ยังตกลงกันไม่ได้

จึงมีการกำหนดเป้าหมายใหม่ว่า กำหนดให้แต่ละประเทศ เสนอลดภาษีลงมาเหลือ 0% ไม่ต่ำกว่า 90% ของรายการสินค้าทั้งหมด แต่ปัญหาขณะนี้มีหลายประเทศ เสนอรายการสินค้าที่จะลดภาษีลงมา ไม่ถึง 80% เนื่องจากบางประเทศยังไม่มีข้อตกลงเปิดเสรีทางการหรือ FTA ระหว่างกัน เช่น ระหว่างจีน กับ อินเดีย และญี่ปุ่น กับจีนกับญี่ปุ่น ไม่พร้อมที่จะเปิดเสรีทีเดียวทั้งหมด

นอกจากนี้ อินเดีย ยังให้ความสำคัญเรื่องการเปิดเสรีภาคบริการ และต้องการให้อาเซียน เปิดเสรีภาคบริการให้มากขึ้น ซึ่งจะมีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม AEM ด้วย ทั้งนี้ การเร่งรัดการเจรจา จะมีการประชุมในเดือนต.ค. ด้วย เพื่อให้สามารถสรุปผลให้ทันการเสนอในที่ประชุมในระดับผู้นำในช่วงเดือนพ.ย.นี้

“เป้าหมายคือ เราต้องการให้มีการลดภาษีสินค้า อย่างมีความหมายแท้จริง และมาตรการด้านการค้าต่างๆ ต้องมีมาตรฐานไม่ต่ำเกินไป เนื่องจากข้อตกลงอาร์เซปจะมีความสำคัญมาก หากตกลงกันได้จะเป็นข้อตกลงเปิดเสรีทางการค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมจำนวนประชากรทั้งหมด 3,500 ล้านคน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก” นางอภิรดีกล่าว

นางอภิรดีกล่าวอีกว่า ที่ประชุมเออีเอ็ม จะติดตาม เร่งรัดแผนงานประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายในปี 2568 หรือ AEC Blueprint 2025 ในประเด็นสำคัญที่จะช่วยลดอุปสรรคทางการค้า และส่งผลต่อการขยายตัวของการค้าการลงทุน โดยจะร่วมรับรองเอกสารสำคัญ เช่น แผนงานด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน , แผนงานและตัวชี้วัดการอำนวยความสะดวกทางการค้าของอาเซียน, กรอบการคุ้มครองผู้บริโภคระดับสูง, แนวทางการจดทะเบียนธุรกิจที่ดี รวมถึงกรอบการดำเนินธุรกิจแบบมีส่วนร่วมของอาเซียน เพื่อผลักดันให้ธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย สามารถร่วมอยู่ในมูลค่าโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน