นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้มอบหมายสำนักป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเอกชนเจ้าของสิทธิ โดยกรมจัดชุดจรยุทธ์ร่วมลงพื้นที่ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งชุดระดมกวาดล้างเพื่อปราบปรามในพื้นที่ทั่วประเทศ

ซึ่งจากการเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายอย่างเข้มงวด พบว่า สถิติการปราบปรามในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย. 2560) มีการตรวจจับได้ทั้งสิ้น 3,799 คดี รวมของกลางได้ 2,049,297 ชิ้น โดยของกลางที่ยึดได้ส่วนใหญ่เป็นสินค้า เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ทั้งนี้ สถิติดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับยอดเฉลี่ย 6 เดือนของปี 2559 พบว่ามีจำนวนคดีเพิ่มขึ้น 1.16%

นายทศพล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความร่วมมือในการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวดแล้ว กรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้เพิ่มมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติงาน ณ ศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประจำพื้นที่ หรือ ไอเพค (Intellectual Property Enforcement Center : IPEC) ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่เฝ้าระวัง 3 จุดสำคัญ ได้แก่ ตลาดนัดสวนจตุจักร ศูนย์การค้ามาบุญครอง และตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ซึ่งหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับสินค้าละเมิดฯ ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสไปยังศูนย์ IPEC ของแต่ละพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการตรวจสอบได้ทันที

นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ทำการตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานการป้องปรามการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ณ พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษในเขตกรุงเทพฯ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ธานี กระบี่ ภูเก็ต สงขลา และเชียงใหม่ จากการตรวจสอบประเมินผลดังกล่าว ปรากฏว่าการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในพื้นที่ดังกล่าว ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน