นางแดเรียน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ทียู เปิดเผยว่า ทียู มองหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และใช้เทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน ตามกลยุทธ์ SeaChange เพื่อความยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารทะเล
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทียู ได้ร่วมมือกับบริษัท คอร์เบียน เพื่อต่อยอดการจัดหาวัตถุดิบการผลิตอาหารสัตว์อย่างมีความรับผิดชอบ โดยการใช้ สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ ที่ผ่านการหมักด้วยน้ำตาลอ้อยที่ไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม มาเป็นส่วนผสมในอาหารกุ้ง หลังจากการทดลองอย่างเข้มข้น โดย บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) พบว่า กุ้งมีการเจริญเติบโตดี ซึ่งในสาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอนั้นมีโอเมก้า 3 สูงกว่าปริมาณที่พบในน้ำมันปลาถึง 2 เท่า จึงเป็นส่วนผสมอาหารสัตว์ที่สะอาดปลอดภัย
การใช้สาหร่ายอัลจาไพรม์ ดีเอชเอ เข้ามาผลิตอาหารสัตว์ยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้อาหารทะเลในการผลิตและเป็นส่วนผสมอาหารกุ้งทีมีสารอาหารสูง ช่วยในการเติบโตของกุ้งที่เพาะเลี้ยงและ ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ถือเป็นการเลือกใช้โปรตีนและน้ำมันทางเลือก ที่ช่วยให้สามารถผลิตอาหารเลี้ยงกุ้งที่มีคุณค่าทางอาหารสูงสม่ำเสมอ สอดคล้องกับนโยบายด้านความยั่งยืน ที่ดำเนินงานตามแนวทางกลยุทธ์ SeaChange นั้นทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นในอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้
นายคริส ฮากค์ ผู้บริหารด้านธุรกิจสัตว์น้ำทั่วโลก บริษัท คอร์เบียน กล่าวว่า บริษัทพร้อมร่วมมือกับ ทียู ในการใช้สาหร่าย อัลจาไพรม์ ดีเอชเอ มาใช้ในการผลิตอาหารเลี้ยงกุ้ง ซึ่งบริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนา สาหร่ายอัลจาไพรม์ ดีเอชเอ นี้เพื่อตอบรับการอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งอย่างยั่งยืนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
