คลังยันคนละครึ่งไม่ฝืด! 3 วันจ่ายแล้วกว่า 100 ล้านต่อวัน ถ้าไม่ถูกใจให้เลือกใช้ช้อปดีมีคืนได้ – ชี้ตั้งแต่เริ่มโครงการมียอดใช้จ่ายรวมกว่า 500 ล้านบาท

คลังยันคนละครึ่งไม่ฝืด – นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ยืนยันว่าโครงการคนละครึ่งที่เริ่มให้ประชาชน ทั่วประเทศใช้สิทธิ์ซื้อสินค้า ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจะสมทบให้ครึ่งหนึ่ง แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อวัน ไม่ฝืด ประชาชนให้ความสนใจ โดยได้รับรายงานว่า ช่วง 3 วันแรกของโครงการ มีคนจับจ่ายและรัฐช่วยสมทบแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อวัน

“ใครบอกว่าใช้จ่ายฝืด คลังตั้งใจให้ค่อยๆ ทยอยใช้จ่าย โดยสมทบวันละ 150 บาท ก็เหมาะสม เพราะมาตรการเพดานสูงสุดที่ 10 ล้านคน ใช้จ่าย 1 ล้านคน ก็มีเงินหมุนเวียนจากรัฐ 150 ล้านบาท 10 ล้านคนก็ 1,500 ล้านบาท” นายกฤษฎา กล่าว

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการใช้จ่ายในช่วง 3 วันแรก (23-25 ต.ค.2563) ซึ่งเป็นวันหยุดราชดาร อาจมีติดขัดบ้าง เนื่องจากระบบสั่งจ่ายเงินผ่านธนาคารกรุงไทย ดำเนินการได้เฉพาะวันธรรมดา จึงสั่งการ สอบถามไปยังธนาคารกรุงไทย ว่าสามารถเบิกจ่ายได้ทุกวันหรือไม่ เพื่อให้การใช้จ่ายในมาตรการมีความราบรื่น

นายกฤษฎา กล่าวว่า ยอดลงทะเบียนล่าสุดในมาตรการคนละครึ่ง อยู่ที่ 8.7 ล้านคน เหลืออีกประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งมั่นใจว่าจะลงทะเบียนได้ครบที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนได้รับสิทธิ์ คนละครึ่ง ไปแล้วสามารถเลือกได้ ว่าจะใช้มาตรการ คนละครึ่ง หรือ มาตรการช้อปดีมีคืนได้ โดยเลือกได้ว่าจะใช้ประโยชน์จากโครงการไหน

ทั้งนี้ ประชาชนที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไปแล้ว แต่ต้องการใช้มาตรการช้อปดีมีคืน ก็ห้ามใช้จ่ายถายใน 14 วัน หลังจากได้รับ เอสเอ็มเอสแจ้ง ระบบก็จะตัดสิทธิ์ จึงจะสามารถไปใช้สิทธิ์ ช้อปดีมีคืนได้ ต้องประเมินตัวเอง มาตรการไหนคุ้มค่ากว่ากันแล้วแต่ผู้บริโภคตัดสินใจ

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันแรกตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2563 เป็นต้นมา ขณะนี้มีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 8.5 ล้านคน และมีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 3.5 แสนร้านค้า โดยในช่วงเที่ยงของวันที่ 26 ต.ค. 2563 มีผู้ใช้สิทธิแล้ว 1,245,528 คน ยอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 502.9 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 259.4 ล้านบาท และรัฐช่วยจ่ายอีก 243.5 ล้านบาท โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 234 บาทต่อครั้ง

เมื่อพิจารณาในรายละเอียดของการใช้จ่ายพบว่า มีการใช้จ่ายมากที่สุดเรียงลำดับ ได้แก่ ร้านธงฟ้า ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป และร้าน OTOP โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด ซึ่งจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นครศรีธรรมราช และสงขลา

รองโฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวย้ำว่า ประชาชนยังสามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. ต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าจะครบ 10 ล้านคน โดยท่านที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ ติดตั้งแอพพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว จะต้องใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ หรือนับตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. 2563 สำหรับผู้ที่ได้รับ SMS ก่อนวันดังกล่าว มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในช่วงเวลา 06.00-23.00 น. หรือ ณ สาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งขณะนี้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงการคลังได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และอำนวยความสะดวกในการรับสมัครผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านเข้ามาช่วยในการยืนยันข้อมูลผู้ประกอบกิจการร้านค้า เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายของประชาชนเพิ่มมากขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน