สูงสุดเป็นประวัติการณ์! เปิดกำไรซีพีเอฟ 9 เดือนปีนี้ “ประสิทธิ์” มั่นใจปีหน้ายังดีต่อเนื่อง

วันที่ 12 พ.ย.2563 บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รายงานกำไรประจำไตรมาส 3/2563 จำนวน 7,475 ล้านบาท เติบโต 23% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรสำหรับ 9 เดือนปี 2563 จำนวน 19,614 ล้านบาท เติบโต 36% จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จำนวน 61,658 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87% จากปีก่อน ซึ่งเป็น EBITDA ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยหลักมาจากภาวะขาดแคลนสุกรในภูมิภาคจากการระบาดของโรค ASF (African Swine Fever) ที่ส่งผลให้ราคาตลาดอยู่ในระดับที่สูงกว่าปีก่อน ประกอบกับความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยดีขึ้นต่อเนื่องจากการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดและการปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวถึง ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟที่ดีขึ้นว่า ปัจจัยหลักมาจากการขาดแคลนสุกรในภูมิภาคเอเซีย เนื่องจากการระบาดของโรค ASF ที่ทำให้ปริมาณสุกรลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามและประเทศจีน ทำให้ระดับราคาสุกรปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนอย่างผิดปกติ พร้อมทั้งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร จากการที่ยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันการระบาด ผู้เลี้ยงจึงต้องบริหารจัดการฟาร์มอย่างเคร่งครัดตามมาตรฐานชีวภาพเพื่อป้องกันโรค และมีลูกสุกรที่มีความแข็งแรงต้านทานโรคได้ ดังนั้น การเพิ่มปริมาณสุกรเข้าสู่ตลาดน่าจะยังต้องใช้เวลาเพราะหากการจัดการไม่ดีอาจก่อให้เกิดโรคอีกได้

นอกจากธุรกิจสุกรแล้ว ผลการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน จากการที่บริษัทปรับรูปแบบและกลยุทธ์ในการทำธุรกิจที่ให้น้ำหนักกับการทำการตลาดภายในประเทศมากขึ้น มองว่าธุรกิจสัตว์น้ำในประเทศไทยและในต่างประเทศจะมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องจากนี้ไป ”

นายประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมสำหรับเป้าหมายปี 2564 ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายมีกำไรที่ดีต่อเนื่อง จากการขยายธุรกิจและการเพิ่มปริมาณการผลิตในหลายประเทศ โดยคาดว่าราคาสุกรในปีหน้าน่าจะอ่อนตัวลงจากปีนี้แต่คงอยู่ในระดับที่สูง รวมทั้งบริษัทจะมีการรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจากธุรกิจสุกรในประเทศจีนที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้อนุมัติให้เข้าทำรายการเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าในปีหน้าจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน