นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม ว่า กระทรวงฯ สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจใหม่ หรือบีซีจี (BCG เศรษฐกิจชีวภาพ : Bioeconomy, เศรษฐกิจหมุนเวียน : Circular Economy, เศรษฐกิจสีเขียว : Green Economy) โดยเฉพาะสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ซึ่งเป็นสถาบันมาตรฐานแห่งชาติที่กำกับดูแลและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมนำมาตรฐานไปใช้ในการจัดการทรัพยากรขององค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า

โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จัดทำยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม BCG เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เข้มงวดกับนิคมฯ และภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ให้มีการดำเนินงานตามมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียน

“โลกการค้าปัจจุบันผู้บริโภคจะให้ความสนเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะนโยบายของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมากและจะนำมาเป็นมาตรการกีดกันการค้าในอนาคตกับประเทศต่างๆ ที่ทำการค้ากับสหรัฐ ดังนั้นไทยต้องปรับตัว เพราะไทยที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐในสัดส่วนที่สูง ซึ่งการที่บริษัทใดผลิตสินค้าได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนย่อมได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมากขึ้น และช่วยให้สินค้าไทยก้าวข้ามกำแพงกีดกันการค้าได้ในอนาคต โดยภาครัฐและเอกชนชั้นนำของไทยจะเข้ามาร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้กับบริษัทขนาดกลางและเล็กได้ปรับตัวไปสู่มาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป”

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการ สมอ.กล่าวว่า สมอ.ได้กำหนดใช้มาตรฐานพลาสติกชีวภาพ มาตรฐานการนำวัสดุเหลือใช้มาหมุนเวียนใช้ใหม่ และมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ประกาศใช้ตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563

ทั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนนำไปใช้ในการจัดการทรัพยากรในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้งาน และการนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นวัตถุดิบใหม่ รวมถึงการออกแบบการดำเนินงานของธุรกิจ และการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือบริการ เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม ส่งผลให้ปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นมีจำนวนลดน้อยลง จนกระทั่งนำไปสู่การไม่มีของเสีย

“ในอนาคต มาตรฐานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และมาตรฐานสิ่งแวดล้อม จะเป็นมาตรการสำคัญด้านการค้า คาดว่าหน่วยงานออกมาตรฐานไอเอสโอ จะออกมาตรฐานเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมาตรฐานสากลในกลางปี 2564 และคาดว่าอีกภายใน 3 ปี จะกลายมาเป็นมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ สมอ. จะออกมาตรฐานรับรองผลิตภัณฑ์รีไซเคิล ที่จะรับรองว่าสินค้าแต่ละชนิดใช้วัตถุดิบรีไซเคิลกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ผู้ซื้อต่างชาติมั่นใจว่าใช้วัสดุรีไซเคิลจริง และมีความแข็งแรงทดทานตามที่กำหนด”เลขาธิการ สมอ.กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน