เกษตรกรเฮ! พาณิชย์จ่ายประกันรายได้มันสำปะหลัง 1 ธ.ค.นี้ วงเงินงบประมาณ 9,788 ล้านบาท

เกษตรกรเฮพรุ่งนี้จ่ายประกันมัน – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 18 ส.ค. 2563 อนุมัติให้เดินหน้าโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังปีที่ 2 วงเงินงบประมาณ 9,788 ล้านบาท โดยเกษตรกรมันสำปะหลังได้รับประโยชน์ 5.24 แสนครัวเรือน ช่วงแจ้งเพาะปลูกคือ 1 เม.ย. 2563 – 31 มี.ค. 2564 โดยประกันรายได้ที่ราคาเป้าหมายกิโลกรัม (ก.ก.) ละ 2.50 บาทไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน หรือคิดเป็น 100,000 ก.ก. โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรเดินหน้าต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

โดยคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 งวดที่ 1 ซึ่งเป็นงวดแรกของโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังปี 2 โดยจะชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรและระบุวันเพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 และระบุวันคาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ในราคาก.ก.ละ 0.26 บาท ซึ่งเป็นส่วนต่างจากราคาเป้าหมายที่กำหนดประกันรายได้ไว้ที่ 2.50 บาทต่อก.ก. โดยราคาตลาดหัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% ขณะนี้เฉลี่ยอยู่ที่ก.ก.ละ 2.24 บาท จึงมีส่วนต่าง 26 สตางค์นั่นเอง

ทั้งนี้ การจ่ายเงินส่วนต่างรัฐบาลจะจ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือน เป็นเวลา 12 เดือน โดยจะจ่ายงวดแรกในวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกร 1 ครัวเรือน จะใช้สิทธิได้ 1 ครั้งและการคำนวณผลผลิตที่จะได้รับการชดเชย ได้ใช้ปริมาณผลผลิตต่อไร่ย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2560/61 ปี 2561/62 และปี 2562/63) ของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะได้เท่ากับ 3,419 ก.ก.ต่อไร่ เมื่อคูณด้วยจำนวนไร่ตามที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้แต่การจ่ายประกันรายได้ต้องไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน

“ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงขณะนี้ 2.24 บาทต่อก.ก. แต่รัฐบาลประกันรายได้ไว้ที่ราคาเป้าหมาย 2.50 บาทต่อก.ก. ทำให้ต้องชดเชยส่วนต่างแก่เกษตรกร 0.26 บาทต่อก.ก. รัฐบาลการประกันรายได้ไว้ให้ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน หรือ 100,000 ก.ก. ดังนั้นเกษตรกรมันสำปะหลังที่เก็บเกี่ยวขอบนี้คือเกษตรกรที่ระบุวันเพาะปลูกตั้งแต่ 1 เม.ย. 2563 และคาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อน 1 ธ.ค. 2563 โดยจะจ่ายในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะได้รับสิทธิ์ชดเชยสูงสุด 26,000 บาท หากมีข้อสงสัยให้ประสานงานสำนักงานพาณิชย์ทุกจังหวัดหรือกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน