นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบรุนแรงทั่วโลก หลายบริษัทต้องปิดตัว ลดพนักงาน แต่ในวิกฤตส่งผลทางบวกให้แอมเวย์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลากหลายรายการครอบคลุมการดูแลสุขภาพให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มนิวทริไลท์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพเชิงป้องกัน สอดรับกับความต้องการผู้บริโภคในช่วงเกิดโควิด-19 ที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มาเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เป็นปัจจัยเร่งทำให้คนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น

ประกอบกับแอมเวย์ มีการลงทุนวางโครงสร้างด้านเทคโนโลยีไว้ก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นช่วงล็อกดาวน์ทำให้มีอัตราเร่งของการเรียนรู้และพฤติกรรมการค้าขายบนออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งยังปรับกลยุทธ์การตลาดแบบยืดหยุ่นตลอดเวลาทั้งในด้านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากที่สุดทำให้ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา แอมเวย์สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสิ้นปี 2563 มั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 20,800 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 3% จากปี 2562 ที่มียอดขาย 20,190 ล้านบาท ขณะเดียวกันในช่วงล็อกดาวน์เดือนมี.ค.-มิ.ย. ยังพบว่ามีนักธุรกิจสมัครใหม่เติบโตขึ้น 7% และสัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 15% เป็น 30%

นายกิจธวัช กล่าวว่า แนวโน้มปี 2564 ยอมรับห่วงกำลังซื้อผู้บริโภคที่อาจชะลอตัว ทำให้มองว่าภาพรวมธุรกิจขายตรงปีหน้าจะทรงตัวเท่าปี 2563 ด้วยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 71,000 ล้านบาท

นางรัตนา ชาญนรา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอดปีที่ผ่านมาแอมเวย์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหลายรายการ ครอบคลุมการดูแลสุขภาพให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม อาทิ ทรูวิวิตี้ บาย นิวทริไลท์ และ นิวทริไลท์ โพรไบโอติก ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายอันดับต้นๆ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมน้ำหนักบอดี้คีย์ บาย นิวทริไลท์ และ นิวทริไลท์ โปรตีน และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ยอดขายของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นิวทริไลท์โดยรวมตลอดทั้งปีทำได้กว่า 13,500 ล้านบาท หรือโตประมาณ 7% และทำให้ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายที่ 65% ของยอดขายรวม ส่วนผลิตภัณฑ์อาร์ทิสทรี ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางมีสัดส่วน 9% ลดลงเล็กน้อย ขณะที่เครื่องกรองอากาศและเครื่องกรองน้ำมีสัดส่วน 14%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน