หอการค้าไทยถูกใจรัฐแจกเงิน 3,500 บาท อัดเงินถึงมือประชาชนแสนล้าน ปลุกเศรษฐกิจปี’64 โตทะลุ 2.5%

หอการค้าถูกใจแจก3,500 – นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า มาตรการช่วยเหลือที่รัฐบาลออกมา ถือว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งหอการค้าไทยประเมินว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ จะอยู่ที่ 1 แสนล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากสถานการณ์ยืดเยื้อ 1 เดือนครึ่ง – 3 เดือน จะมีความเสียหายประมาณ 3-4 แสนล้านบาท แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายในเดือนก.พ. 2564 ความเสียหายทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2 แสนล้านบาท จะทำให้เศรษฐกิจปี 2564 เติบโตแค่ 2.2% จากที่คาดการณ์เดิมที่คากว่าจะเติบโต 2.8%

ทั้งนี้ จากมาตรการแจกเงิน 3,500 บาท จำนวน 2 เดือน ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงประเด็น โดยต้องเป็นการโอนเงินเข้าถึงมือประชาชนเพื่อช่วยเพิ่มกำลังซื้อ กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าวิธีอื่นที่อาจจะไม่ทัน เป็นการแก้ไขได้ตรงประเด็น ซึ่งหากจะขยายมาตรการคนละครึ่งก็ถือว่าเต็มที่แล้ว และมีข้อจำกัด จากจำนวนผู้รับสิทธิ์ 15 ล้านคน แม้ว่าจะมีการเปิดเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ก็ยังเป็นตัวเลขตามกรอบเดิมอยู่ รวมถึงมาตรการเราเที่ยวด้วยกันก็ยังมีข้อจำกัดจากสถานการณ์ที่ทำให้คนออกไปท่องเที่ยวได้

“จากมาตรการแจกเงิน ประเมินว่าจะมีเงินเติมเข้าไปในระบบเศรษฐกิจ เพื่อชดเชยส่วนที่หายไปได้ไม่น้อยกว่า 7 หมื่นล้านบาท น่าจะเพียงพอที่จะจุนเจือสถานการณ์ โดยประเมินว่าหากมีการแจกเงินถึง 15 ล้านคน ก็จะใช้เงินมากกว่า 1.5 แสนล้านบาท เศรษฐกิจไทยในปี 2564 ก็จะมีโอกาสโตได้เพิ่มอีก 0.5-0.6% และมีโอกาสขยายตัวมากกว่า 2.5%” นายธนวรรธน์ กล่าว

นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาให้คลี่คลายได้ภายในเดือนมี.ค. 2564 และหลังจากนั้นจะต้องมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2564 ซึ่งอาจจะยังทำได้ไม่มาก จึงต้องใช้มาตรการเดิมที่มีอยู่ไปก่อน เช่น มาตรการคนละครึ่ง และเที่ยวด้วยกัน ซึ่งหอการค้าเสนอให้รัฐบาลขยายระยะเวลาโครงการให้ครอบคลุมถึงไตรมาส 2-3 ปี 2564 รวมทั้งมาตรการอื่นๆ เช่น การสนับสนุนให้เกิดการเดินทาง อบรมสัมมนา การดูแลค่าเงินบาท การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการพยุงการจ้างงานไม่ให้มีการปลดคนงาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน