พิษโควิด-เศรษฐกิจแย่! เงินสะพัดวาเลนไทน์ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จับตาทุกเทศกาลตรุษจีน-มาฆบูชา ซบเซา หวังมาตรการรัฐกระตุ้นการใช้จ่าย

พิษโควิด-เศรษฐกิจแย่ – นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการสำรวจทัศนคติ พฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันวาเลนไทน์ ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1234 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27 ม.ค.-6 ก.พ. 2564 กลุ่มตัวอย่าง 46.0% ระบุว่าบรรยากาศในวันวาเลนไทน์ในปี 2564 คึกคักน้อยกว่าปี 2563 โดยเห็นว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจแย่ลง ถึง 42.9% การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึง 38.3% มีความกังวลเรื่องความปลอดภัย 6.9% รายได้ลดลง 6.6% ราคาสินค้าแพงขึ้น 2.9% ภัยธรรมชาติและฝุ่นละออง 2.4% และกลุ่มตัวอย่างถึง 57.1% ระบุว่าไม่ฉลองวันวาเลนไทน์ ส่วน 12.6% ระบุว่าคึกคักมากกว่าปีที่แล้ว เป็นเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐถึง 67.3% มีสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น 24.7% คาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น 5.0% ผู้ปกครองไม่อยู่ 3.0%

รวมทั้งพบว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายโดยรวมต่อคนในวันวาเลนไทน์ปีนี้อยู่ที่ 1,306.28 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ใช้จ่ายโดยรวมต่อ 1,814.01 บาท ซึ่งเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปีหรือตั้งแต่ปี 2555 โดยในส่วนนี้จ่ายเพื่อซื้อของขวัญให้คนรัก 966.42 บาทในปีนี้ ลดลงจากปีก่อนที่ใช้จ่ายเพื่อซื้อของขวัญให้คนรัก 1,013.29 บาท ส่งผลให้คาดว่าในวันวาเลนไลน์นี้ทำให้เงินสะพัดที่ 2,560 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีเงินสะพัด 3,246.97 ล้านบาท หรือลดลงถึง 21.15% ลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี หรือลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการสำรวจโพลวันวาเลนไทน์

“การใช้จ่ายในวันวาเลนไทน์เห็นชัดเจนว่าเป็นสถานการณ์ที่ซบเซาและซึมๆ ไม่คึกคักขยายตัวติดลบที่กลุ่มตัวอย่างตอบว่าซื้อของได้น้อยลงก็เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เหมือนกับการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีน” นายธนวรรธน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม พบว่าพฤติกรรมของการใช้จ่ายของกลุ่มตัวอย่างที่มีบ้างเป็นเพราะนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายชองรัฐบาลซึ่งก็เริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาดูต่อไปว่ามาตรการรัฐจะมีผลอย่างไรบ้างต่อการจับจ่ายของประชาชน ในช่วงเทศกาลต่างๆ โดยในเร็วๆ นี้ จะทำการสำรวจการใช้จ่ายในวันมาฆบูชา แต่เท่าที่สังเกตมาตรการของรัฐที่ออกมาขณะนี้ยังไม่มีผลต่อด้านการท่องเที่ยว เพราะผลการสำรวจยังพบว่ากลุ่มตัวอย่างยังไม่มีแผนด้านการท่องเที่ยว หรือมีการเปลี่ยนแผน ยกเลิกแผนการท่องเที่ยว ดังนั้นสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงมีผลต่อการเดินทางท่องเที่ยวของกลุ่มตัวอย่าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน