ททท. เดินสายคุยแอร์ไลน์เล็งขายตั๋วบุฟเฟต์บินกี่เที่ยวก็ได้รัฐช่วยจ่าย 2 พันบาท หวังกระตุ้นความถี่ในการเดินทาง
ททท. เดินสายคุยแอร์ไลน์ – นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ต่อนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา หลังรวบรวมความเห็นและแนวทางจากภาคเอกชน โดยเฉพาะสายการบิน จึงคิดว่ามาตรการที่มีความเป็นไปได้ และจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้ คือ การขายตั๋วประเภทบุฟเฟต์ หรือ อันลิมิเต็ด พาส โดยรัฐบาลจะอุดหนุนในอัตราคนละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ การร่วมกับสายการบิน ขายตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟต์ ในราคาเท่าไหร่นั้น ต้องสรุปร่วมกับสายการบินอีกครั้ง แต่เบื้องต้น ข้อเสนอของสายการบิน คือ ตั๋วบุฟเฟต์ ราคา 12,000 บาท รัฐบาลอุดหนุน ค่าเครื่องบิน 2,000 บาท/1สิทธิ์ ระยะเวลา 3 เดือน สามารถบินในประเทศกี่เที่ยวก็ได้ หากรัฐบาลเห็นด้วยก็จะเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดการเดินทางระหว่างกัน ภายในประเทศขึ้น เป็นการเพิ่มความถี่ในการท่องเที่ยว หรือไปมาหาสู่กันมากขึ้น
ดังนั้นการดำเนินการเพื่ออุดหนุนตั๋วเครื่องบินของภาครัฐ ในภาวะโควิด-19 ระบาด หลังการอภิปราย ททท. คงเร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น แต่โปรโมชั่นตั๋วบุฟเฟต์ จะมีราคาเดียวหรือไม่อย่างไร ต้องหารือกับผู้เกี่ยวข้องก่อน และสิทธิตั๋วเครื่องบินในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน พบว่ามียอดการใช้ต่ำมากเมื่อเทียบกับห้องพัก ปัจจุบันเหลือมากกว่า 1.3 ล้านที่นั่ง จากทั้งหมด 2 ล้านที่นั่ง หากคิดเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจะประมาณ 2,700 ล้านบาท
“การสนับสนุตั๋วประเภทบุฟเฟต์ จะเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า เพราะนักท่องเที่ยวสามารถซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่อเดินทางทีหลัง ทำให้สามารถบริหารจัดการยืดหยุ่นตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสได้ ขณะเดียวกัน ก็เป็นการเพิ่มความถี่ของการเดินทางในประเทศด้วย เนื่องจากเมื่อผู้โดยสารซื้อตั๋วล่วงหน้าไว้แล้ว จะมีแรงจูงใจในการวางแผนเดินทางให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปด้วย ซึ่งจะดำเนินการเพียง 1.3 ล้านที่นั่ง หรือมากกว่านั้นยังไม่ได้ข้อสรุป”
นายยุทธศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมงบประมาณที่เหลือจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังจากที่ห้องพัก 1 ล้านห้องในเฟส 2 ที่เพิ่มเติมเข้ามา มีการจองสิทธิเต็ม โดยจะมีการขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกันหรือไม่นั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปคือ การอุดช่องโหว่ หรือ จุดอ่อนของโครงการในระยะแรก และอาจมีขยายโควตาห้องพักในเฟสที่ 3 ให้มีการขยายเวลาการเข้าพักออกไปถึงก.ย. เพื่อให้ครอบคลุมถึงช่วงโลว์ซีซัน หรือ ฤดูฝน ที่การเดินทางอ่อนตัวลง
นอกจากนั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่จะลดราคาเพดานต่อห้องจาก 7,500 บาทมาเป็น 2,700 บาท หลังพบว่าผู้ใช้สิทธิในสองเฟสแรก ใช้ห้องพักในราคาเฉลี่ยไม่เกิน 2700 บาทเท่านั้น การลดเพดานดังกล่าว จะทำให้สามารถใช้งบประมาณไปเพิ่มให้กับจำนวนห้องพักมากขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำแผนว่าอาจจะเป็น 1 หรือ 2 ล้านห้องขึ้นไป