รายงานพิเศษ

เปิดแผน’ททท.’ฟื้นท่องเที่ยว – อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีสัดส่วนเกือบ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายการบินทั่วโลกงดบินข้ามประเทศ การท่องเที่ยวในประเทศพลอยกระทบอย่างหนัก

สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว (สทท.) ต้องร้องขอความช่วยเหลือให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะขณะนี้ตกงานมากกว่า 2 ล้านคน ธุรกิจเริ่มขาดสภาพคล่อง ปิดกิจการมากกว่า 20%

ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศฐานะของธนาคารพาณิชย์ทั่วประเทศ เริ่มมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มากขึ้น โดยเอ็นพีแอลส่วนใหญ่มากกว่า 4 แสนล้านบาท เป็นเอ็นพีแอลจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการ ว่าหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มีสถานการณ์เป็นอย่างไร ยังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่ ความต้องการที่แท้จริงคืออะไร ต้องการเงินกู้หรือไม่

จะเปิดให้ผู้ประกอบการทุกรายที่ได้รับความเดือดร้อนมาลงทะเบียนออนไลน์เร็วๆ นี้ เพื่อนำไปประกอบเป็นข้อมูลสนับสนุนในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการ ปรับตัว และจัดลำดับความสำคัญในการช่วยเหลือ

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอีและธุรกิจครอบครัวประมาณกว่า 50% ไม่อยู่ในระบบ หลายรายไม่สามารถเข้าถึงเงินกู้จากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ต้องการเงินจากกองทุนนี้มาช่วยพยุงให้ธุรกิจอยู่รอด

ผลกระทบจากโควิดต้องยอมรับมีภาคท่องเที่ยวล้มหายตายจากไม่ต่ำกว่า 20% หากรัฐบาลจะช่วยต้องรู้ว่าผู้ประกอบการจะทำอาชีพด้านท่องเที่ยวต่อหรือไม่ หรือจะเลิกทำ แล้วจะทำอะไร

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ปี 2564 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยคงมีประมาณไม่เกิน 5 ล้านคน สั่งให้ททท. เลิกกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเก็บเงินไว้ทำกิจกรรมใหญ่

เปิดแผน'ททท.'ฟื้นท่องเที่ยว

โปรโมตการท่องเที่ยวในประเทศ หลังมีวัคซีนและสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ทำแผนดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ 3

ททท.สั่งให้ทุกสำนักงานต่างประเทศ แจ้งข้อมูลและสถานการณ์ของประเทศต้นทางทุก 2 สัปดาห์ ทั้งข้อมูลการฉีดวัคซีนว่ามีจำนวนเท่าใด รวมถึงแนวทางการเปิดประเทศว่าประเทศที่ดูแลนั้นมีนโยบายเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ เพื่อกำหนดแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้อย่างถูกต้อง

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ปรับเป้าจำนวนและรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ อยู่ที่ 8 ล้านคน รายได้ 4.28 แสนล้านบาท ลดลงจากก่อนหน้าที่ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไว้ที่ 10 ล้านคน รายได้ 5 แสนล้านบาท

เปิดแผน'ททท.'ฟื้นท่องเที่ยว

เพื่อคงเป้ารายได้รวมการท่องเที่ยวจากทั้งตลาดในและต่างประเทศปีนี้ที่ 1.2 ล้านล้านบาท จึงเพิ่มเป้าจำนวนและรายได้ตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศเป็น 150 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.16 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเป้าเดิมซึ่งเคยตั้งไว้ที่ 120 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้การท่องเที่ยว 7 แสนล้านบาท

เป้าหมายรายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2565 ยังคงเป้าเดิมที่ 2.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัว 80% ของรายได้รวมเมื่อปี 2562

นอกจากนี้ ททท.เตรียมเสนอรัฐบาลพิจารณาจัดตั้งกองทุนเพื่อการปรับตัว (กองทุนทรานส์ฟอร์ม) วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้งภายในครึ่งปีหลัง

จะนำเสนอต่อ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยผลักดันเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) พิจารณารับหลักการ

เป็นกองทุนฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ไม่ใช่กองทุนเพื่อการเยียวยา ไม่ได้มีแค่เรื่องการช่วยเสริมสภาพคล่อง แต่มุ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน การอบรมพัฒนาทักษะบุคลากรท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนเพื่อนำไปสู่บริการใหม่ๆ

ด้าน นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิก ททท. กล่าวว่าหารือกับศบค. ชุดเล็ก ถึงแนวทางการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้

เปิดแผน'ททท.'ฟื้นท่องเที่ยว

ที่ประชุมมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปดูแนวทางและเตรียมทำแผนออกมาโดยเร็ว เพื่อให้ ททท. กลับไปวางแผนดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ พร้อมทั้งจะได้ไปหารือกับเอกชนภาคการท่องเที่ยว เพื่อออกแพ็กเกจท่องเที่ยวให้ตรงกับตลาดนักท่องเที่ยวได้ด้วย

จากการหารือเบื้องต้นกำหนดแนวทางเอาไว้ 3 ตัวอย่าง

ตัวอย่างแรก แนวทางการดึงนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มคณะจะเดินทางเข้ามาได้หรือไม่ และต้องมีเอกสารอะไรประกอบบ้าง ในกรณีที่ประเทศไทยยังไม่มีการฉีด

ตัวอย่างที่สอง ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทางที่มีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้วจะเข้ามาได้อย่างไร และตัวอย่างสุดท้าย กรณีที่ทั้งประเทศไทย และประเทศต้นทางฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายแล้ว คนที่เดินทางเข้ามาจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

‘ตอนนี้มีหลายโมเดลเรื่องการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนมาไทย แต่ทั้งหมดต้องอิงตามหลักฐานทางด้านสาธารณสุขให้มั่นใจว่า ถูกต้องตามหลักและมาตรฐานที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ส่วนวัคซีนพาสปอร์ตก็เป็นหลักฐานหนึ่งที่ชัดเจน และดีไม่ดี การดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจากนี้เป็นต้นไป จะกำหนดกลุ่มเป้าหมาย คือ คนฉีดวัคซีนมาก่อนให้เดินทางเข้ามาในประเทศได้’

นายฉัททันต์ กล่าวและว่าเพื่อสร้างภาพจำและทำการตลาดผ่านออนไลน์ ช่วงเดือนก.พ.2564 ททท.ร่วมกับพันธมิตร ในประเทศและต่างประเทศ ทั้ง ไทย จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ กระตุ้นยอดท่องเที่ยวผ่านซีรีส์ชายใกล้ชิดชาย เพราะวัยรุ่นญี่ปุ่นชื่นชอบซีรีส์วาย หลังออนแอร์ได้ 10 วันกระแสตอบรับดีมาก มีการพูดถึงเมืองไทยมากขึ้น

จัดรายการไทยแลน์ไอมิสยูนำดารา หรือเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียง จัดเรียลลิตี้โชว์ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ประเทศไทย โดยเฉพาะเชียงใหม่และภูเก็ต จับเป้าหมายกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) ชาวไทยและชาวจีน

โดยชาวไทยรับชมผ่านทีวีช่อง 3 ส่วนชาวจีน ดูผ่าน Tencent Video Application ซึ่งเป็นช่องทางที่วัยรุ่นจีนนิยมมาก ส่งผลให้รายการดังกล่าวติดเทรนด์อันดับ 2 ในทวิตเตอร์ประเทศไทย

ส่วนตลาดอินเดียขณะนี้ได้รับการติดต่อเข้ามาเพื่อจัดงานแต่งในเมืองไทยล่าสุด 1 กรุ๊ป ประมาณ 200-300 คน

ค่าใช้จ่ายต่อกรุ๊ปที่จัดงานแต่งในเมืองไทยจำนวน 5 วัน ประมาณ 10 ล้านบาท และเชื่อว่ายังจะมีอีกจำนวนไม่น้อยที่สนใจมาแต่งงานในเมืองไทย

นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา ททท. เปิดผลสำรวจในพื้นที่และความเห็นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวในตลาดยุโรปและอเมริกา พบหลายตลาดน่าสนใจ

เปิดแผน'ททท.'ฟื้นท่องเที่ยว

อาทิ ททท.สำนักงานลอนดอน ร่วมกับ YouGov บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านข้อมูลและการวิจัยตลาดระดับโลก สำรวจความคิดเห็นและข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร พบว่า 75% วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศหากโควิดเริ่มคลี่คลาย

”สัดส่วน 9% หรือประมาณ 6 ล้านคนของนักท่องเที่ยว พิจารณาเลือกเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยในปี 2564 ขณะที่ผลสำรวจพบว่ากลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวโลกจะฟื้นคืนเทียบเคียงปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 ในอีก 4 ปีข้างหน้าหรือในปี 2568”

‘วัคซีน’ จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะส่งสัญญาณต่อการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน