‘พิพัฒน์’ จ่อหารือสภาพัฒน์สัปดาห์นี้ ทวงความคืบหน้าโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ที่ยังเห็นแย้งกันอยู่
พิพัฒน์’ จ่อทวงสภาพัฒน์ – นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้เข้าหารือกับทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.หรือสภาพัฒน์) เพื่อทวงถามความคืบหน้าของโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” เนื่องจากระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ สศช. ยังเห็นแย้งในเงื่อนไขการจ่ายเงินสนับสนุนค่าแพ็กเกจทัวร์จากรัฐ ว่าควรยิงตรงไปที่บริษัทนำเที่ยวผู้ให้บริการ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีจำนวนเข้าร่วมกว่า 3,000 บริษัท หรือยิงตรงไปที่นักท่องเที่ยวกลุ่มสูงวัยจำนวน 1 ล้านคนตามเป้าหมายของโครงการฯ
“ส่วนตัวมองว่าคารสนับสนุนค่าแพ็กเกจทัวร์จากรัฐ ควรยิงตรงเข้าที่บริษัททัวร์เพราะบริหารจัดการได้ง่ายกว่า หากสนับสนุนไปยังนักท่องเที่ยวกลุ่มสูงวัยเป้าหมายมีจำนวนมากถึง 1 ล้านคน อาจมีความยุ่งยากในการบริหารจัดการหากเกิดปัญหา สภาพัฒน์เห็นต่างกันมองว่าควรยิงเงินตรงเข้ากระเป๋าชาวบ้านเลย”
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รายละเอียดการสนับสนุนค่าใช้จ่ายโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋า ที่ทางกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอไปก่อนหน้านี้เพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ ไปยังบริษัทนำเที่ยวซึ่งเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากวิกฤตโควิด-19 จะใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท กระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวอายุ 55-75 ปี จำนวน 1 ล้านคน ที่ต้องมีการเดินทาง 2 คนขึ้นไปในวันอาทิตย์ถึงพฤหัสบดี พร้อมใช้บริการผ่านบริษัทนำเที่ยว เดินทาง 3 วัน 2 คืนขึ้นไป โดยรัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายไม่เกิน 5,000 บาทต่อคน
ทั้งนี้ คาดว่าโครงการเที่ยวไทยวัยเก๋าน่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้เดือนมี.ค. 2564 ก่อนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ที่จะขยายระยะเวลาโครงการเราเที่ยวด้วยกันให้สิ้นสุดก.ย. 2564 จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยการปรับแนวทางการใช้วงเงินโครงการเราเที่ยวด้วยกันในส่วนที่เหลือ หลังจากนักท่องเที่ยวจองสิทธิห้องพักเต็ม 1 ล้านห้องใหม่ในเฟสที่ 2 เมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา และทำให้เหลือเงินสนับสนุนในส่วนรัฐช่วยจ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน 40% แบบคืนเงินย้อนหลัง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อผู้โดยสาร เบื้องต้นน่าจะเหลือราว 3-4 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ต้องรอการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สรุปผลและงบประมาณคงเหลือจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อนำมากำหนดจำนวนสิทธิใหม่ว่าในเฟสที่ 3 แล้วเปลี่ยนไปเป็นรัฐช่วยจ่ายตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟต์ ซึ่งช่วยกระตุ้นความถี่ของการท่องเที่ยว ส่วนตัวเห็นด้วยกับการให้รัฐช่วยจ่ายตั๋วเครื่องบินแบบบุฟเฟต์ เพียงแต่ตอนนี้บางสายการบินได้ออกโปรโมชั่นขายตั๋วบินแบบบุฟเฟต์ไปแล้ว บางรายสิ้นสุดการทำโปรโมชั่น บางรายเริ่มขายโปรโมชั่นนี้อีกครั้ง ก็ต้องหารือกับสายการบินต่างๆ เพิ่มเติมว่ารัฐจะสามารถเข้าไปสนับสนุนส่วนนี้ได้อย่างไร
