‘สทนช. เข็นกฏหมายน้ำเข้า ‘ครม.’ ทำนาปรังรอบ 2-3 ต้องจ่ายค่าน้ำ หากมีที่ดินเกิน 66 ไร่ ยันการเก็บค่าน้ำไม่ได้ทำเพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 21 มี.ค.2564 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช.เตรียมเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอร่างกฎหมายว่าด้วยทรัพยากรน้ำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาโดยรายละเอียดของกฏหมายน้ำเกี่ยวกับการเก็บค่าน้ำ ว่าไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ในเชิงหาผลกำไร แต่ว่เพื่อทดแทนค่าใช้จ่ายการลงทุนการบริหารจัดการของภาครัฐ โดยจะมีการเก็บในอัตราที่แตกต่างกันตามประเภทของการใช้น้ำ

โดยได้มีการกำหนดแบ่งการใช้น้ำออกเป็น 3 ประเภท คือ 1.การใช้น้ำประเภทที่หนึ่ง เป็นการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการเกษตรหรือการเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพ ซึ่งมีหลักเกณฑ์คือ การเพาะปลูกในรอบแรกไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะปลูกจำนวนกี่ไร่ แต่สำหรับช่วงฤดูแล้งที่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำจะเริ่มเก็บเงินสำหรับผู้ใช้น้ำที่ใช้น้ำในที่ดินเกิน 66 ไร่ สำหรับการทำนาเกลือสมุทรจะเริ่มมีการเก็บเงินหากผู้ใช้น้ำถือครองที่ดินเกิน 142 ไร่ สำหรับการทำนารอบแรก ถือเป็นเป็นนาในฤดูเพาะปลูกหรือนาน้ำฝนจะทำกี่ไร่ก็ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ แต่ในการทำเกษตรนาปรังรอบ 2 รอบ 3 หากไม่เกิน 66 ไร่จะไม่ต้องเสียค่าน้ำ แต่หากมากกว่า 66 ไร่ต้องจ่ายค่าน้ำ

2.การใช้น้ำประเภทที่สอง ได้แก่ การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อการอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การผลิตพลังงานไฟฟ้า การประปาและกิจการอื่น ซึ่งมีหลักเกณฑ์ คือ การใช้น้ำบาดาลต่อบ่อต้องไม่เกิน 3,200 ลบ.ม./วัน หรือการใช้น้ำจากแหล่งน้ำผิวดินทุกประเภทต้องไม่เกิน 30,000 ลบ.ม./วัน และ 3.การใช้น้ำประเภทที่สาม การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะเพื่อกิจการขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำปริมาณมาก หรืออาจก่อให้เกิดผลกระทบข้ามลุ่มน้ำ หรือครอบคลุมพื้นที่อ่างกว้างขวาง

ค่าน้ำทำนาปรัง

โดยกำหนดการใช้น้ำที่มากกว่าประเภทที่ 2 กล่าวคืออัตราการใช้น้ำบาดาลต่อบ่อต้องมากกว่า 3,200 ลบ.ม./วัน และอัตราการใช้น้ำผิวดินต้องมากกว่า 30,000 ลบ.ม./วัน รวมถึงการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำทุกกรณีไม่ว่าจะผันน้ำในปริมาณเท่าไหร่ สทนช. ได้มีการศึกษาพิจารณายกร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะหรือรายละเอียดการใช้น้ำแต่ละประเภท ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 หมวด 4 การจัดสรรน้ำและการใช้น้ำ มาตรา 41 การใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะ ร่างที่กำหนดดังกล่าวต้องนำไปรับฟังความคิดเห็นจากคณะกรรมการลุ่มน้ำและคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด ก่อนที่จะนำเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองกฎหมายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน