นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ผลสรุปการลงนามรับซื้อไฟฟ้าของผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ 1 ประเภทขึ้นไป หรือเอสพีพี ไฮบริด เฟิร์ม (SPP Hybrid Firm) ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2564 มีผู้ประกอบการภาคเอกชน 10 รายสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมและสามารถทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมปริมาณเสนอขายไฟฟ้า 159.73 เมกะวัตต์ มีเอกชนที่ไม่สามารถลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าได้ 7 ราย รวมปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวมกัน 140.27 เมกะวัตต์

“ในจำนวนเอกชน 7 รายที่ไม่สามารลงนาม PPA พบว่ามี 2 รายปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวมกัน 43 เมกะวัตต์ สามารถผ่านเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อมแล้วแต่ไม่สามารถลงนาม PPA และ 5 รายปริมาณเสนอขายไฟฟ้ารวมกัน 97.27 เมกะวัตต์ที่ไม่สามารถผ่านเงื่อนไขด้านสิ่งแวดล้อม”

ทั้งนี้ กกพ. ได้เน้นย้ำให้เอกชนทั้ง 10 รายที่สามารถลงนาม PPA ได้แล้วเร่งดำเนินการขอใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการก่อสร้างและทดสอบเครื่องจักรให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ทันก่อนสิ้นปี 2565 เนื่องจากมีเวลาเหลืออีกไม่มากนัก

สำหรับการประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบดังกล่าวปี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2560 ที่ผ่านมา มีเอกชนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 17 ราย เสนอขายไฟฟ้าทั้งสิ้นรวม 300 เมกะวัตต์ กำหนดกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) ภายในปี 2564 ตามเป้าหมายที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) กำหนดไว้

ต่อมาคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ขยาย SCOD โดยกำหนดให้ COD ก่อนสิ้นปี 2565 ซึ่ง กกพ. ก็ได้ขยายกำหนดวันลงนาม PPA จากกำหนดการเดิมภายใน 13 ธ.ค. 2562 เป็นภายใน 22 มี.ค. 2564 เพื่อให้สอดคล้องกับมติ กบง. และสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน