นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิก เปิดเผยว่า คณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาชิก เริ่มโครงการ Big Brother มาตั้งแต่ปี 2559 โดยเป็นความร่วมมือกับบริษัทพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ ดำเนินโครงการร่วมกันมาจนถึงปัจจุบันซึ่งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ และได้สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ได้เติบโตขึ้นเป็นลำดับ

ในปี 2563 ที่ผ่านมา ได้จัดโครงการฯ Season 4 โดยได้รับบริษัท SMEs ที่ผ่านการคัดกรองและสัมภาษณ์มาเป็นบริษัทน้อง จำนวน 45 บริษัท และมีบริษัทพี่เลี้ยงที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 26 องค์กร ซึ่งบริษัทน้องทั้งหมดได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้เชิงลึก เพื่อยกระดับความรู้ ความเข้าใจการพัฒนาทักษะในด้านต่างๆ อาทิ การประเมินสภาพทางธุรกิจ (Business Health Check)การให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยบริษัทพี่เลี้ยง (Coaching) การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ (BusinessClass) เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการบ่มเพาะบริษัทน้องเลี้ยงภายใต้โครงการ Big Brother Season 4 แม้จะมีอุปสรรคจากสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้โครงการฯ ต้องนำวิธีการผสมผสานระหว่าง Onlineและ Offline มาใช้เป็นครั้งแรก แต่ก็มิได้ลดทอนความตั้งใจในการบ่มเพาะของบริษัทพี่เลี้ยงลงไปได้โดยหลังจากสิ้นสุดโครงการฯ ใน Season 4 นี้สามารถสร้างผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ โดยพบว่า ผู้ประกอบการ 44 ราย 97.78% ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจากโครงการในด้านต่างๆ อาทิ มีรายได้เพิ่มขึ้นเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนำเข้าสู่ Modern Trade รวมไปถึงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ด้วย

“ผลลัพธ์การจัดโครงการนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ โดยทางศูนย์เอสเอ็มอี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ประมาณการเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ที่ผู้ประกอบการได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ Big Brother Season 4 รวมเป็นมูลค่า 657.53 ล้านบาท ซึ่งหากรวมผลสำเร็จจากการดำเนินโครงการทั้ง 4 ปี สามารถบ่มเพาะ SME ไปทั้งสิ้น 177 ราย และเกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 3,200 ล้านบาท ทั้งนี้ หอการค้าไทยจะยังคงดำเนินการโครงการ Big Brother อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการฯ ได้ที่ เว็บไซต์หอการค้าไทย www.thaichamber.org” นายพลิษศร์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน