‘ศักดิ์สยาม’ ปิ๊งไอเดีย สร้างโรงไฟฟ้าย่านสถานีกลางบางซื่อ เปิดเอกชนร่วมทุนพีพีพี ผลิตไฟป้อนระบบรถไฟฟ้าและสถานีกลาง ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้า
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม เปิดเผยภายหลัง เริ่มทดสอบเดินรถเสมือนจริง รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วง บางซื่อ-รังสิต และ บางซื่อ-ตลิ่งชัน ว่า พบว่าการเดินรถมีความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย วิ่งด้วยความเร็ว 80-90 กม./ชม. โดยช่วงบางซื่อ-รังสิตใช้เวลา 20 นาที ส่วนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ใช้เวลา 15 นาที โดยจะเปิดให้ประชาชน หน่วยงานและสถานศึกษา บางแห่งเข้ามาทดลองนั่ง โดยต้องทำหนังสือแจ้งมาที่ รฟท. ได้ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. เป็นต้นไป
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ในวันที่ 28 ก.ค. จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาทดลองนั่งฟรี โดยจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิด และจะเริ่มเปิดเดินรถเชิงพาณิชย์เก็บค่าโดยสารจะช่วงปลายเดือน พ.ย.64 อัตราค่าโดยสารเริ่มต้น 12 บาท สูงสุดไม่เกิน 42 บาท ทั้ง 2 ช่วง หรือคิดเฉลี่ยกม.ละ 1.01 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากเพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน เมื่อครบ 1 ปีที่เปิดให้บริการ รฟท.จะต้องทำการประเมินว่า อัตราค่าโดยสารที่เก็บอยู่ในปัจจุบันนั้นสามารถทำให้ รฟท. เดินต่อไปได้หรือไม่ หากไม่ขาดทุน ก็จะคงอัตราค่าโดยสารเดิมต่อไป
นอกจากนี้ ยังจัะมีการจัดทำบัตรโดยสาร 3 รูปแบบ คือ 1.บัตรรายเดือน แบ่งเป็น 3 แบบ คือ 20เที่ยว ราคา 700 บาท ,30 เที่ยว ราคา 900 บาท ,50เที่ยว ราคา1,250 บาท 2.บัตรนักเรียน เด็กที่ส่วนสูงไม่เกิน 90 ซม.ขึ้นฟรี, เด็กอายุไม่เกิน14ปี และส่วนสูงไม่เกิน 91-120 ซม. ได้ส่วนลด50% และนักศึกษาอายุไม่เกิน 23ปี ได้ส่วนลด10% และ3.บัตรผู้สูงอายุให้ส่วนลด50%
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า เพื่อไม่ให้ รฟท. ประสบปัญหาการขาดทุนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง จะเร่งหารายได้เพิ่มนอกเหนือไปจากการเดินรถ เบื้องต้นจะเร่งรัดเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีจำนวน 51,465 ตารางเมตร ให้แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการได้ รวมทั้งเร่งเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานี โดยในปี 64 จะนำที่ดินจำนวน 5แปลง คือ AEGDB ออกมาเปิดประมูลก่อนสร้างเป็นศูนย์ราชการ ที่อยู่อาศัย เป็นต้น ส่วนแปลง CHFI คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในปี 70
รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ รฟท. ได้นำเสนอแนวคิดว่ามีโครงการที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าบนพื้นที่รอบสถานีกลางบางซื่อ เพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าให้กับระบบรถไฟฟ้าภายในสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางของระบบขนส่งทางรางหลายประเภท มีทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าธรรมดา และรถไฟฟ้าทางไกล
รมว.คมนาคม กล่าวอีกว่า เบื้องต้น รฟท. นำเสนอว่าอาจจะใช้รูปแบบการเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในรูปแบบพีพีพี โดยเอกชนที่เสนอผลประโยชน์ที่ดีที่สุดจะได้รับการพิจารณา ซึ่งตนก็เห็นด้วยและให้ไปดำเนินการศึกษารายละเอียดต่อไป เนื่องจากเป็นโครงการที่จะช่วยลดภาระต้นทุนการบริหารค่าไฟฟ้าให้กับสถานีกลางบางซื่อในระยะยาวด้วย
“แต่ละปี รฟท. มีภาระค่าไฟฟ้าภายในสถานีกลางบางซื่อเฉลี่ยเดือนละ 20 ล้านบาท ทั้งนี้ไม่รวมค่าไฟฟ้าในระบบรถไฟฟ้า ซึ่งหากลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าใช้เองแล้วได้ประโยชน์ทำให้ต้นทุนการบริหารสถานีกลางบางซื่อถูกลงก็ควรดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ทราบว่า รฟท.มีโมเดลการร่วมทุนอยู่แล้ว” รมว.คมนาคม กล่าว
