น.ส.พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางานจ๊อบส์ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการจ้างงานในขณะนี้ฟื้นตัวได้อย่างช้า ๆ โดยหากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยยังเป็นบวกได้เล็กน้อยตามที่รัฐบาลคาดการณ์และไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ก็คาดการณ์ว่าการจ้างงานจะเติบโตขึ้นได้ 5% ภายในครึ่งปีแรกของปี 2564

สำหรับตำแหน่งงานที่ยังเป็นที่ต้องการในหลาย ๆ ธุรกิจในขณะนี้คือ เทคโนโลยีและไอที ไม่เฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นที่ต้องการของทุกบริษัทที่ต้องการคนทำงานด้านเทคโนโลยีเข้าไปเสริมทัพ และโดยเฉพาะตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในสายเทคโนโลยี กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในขณะนี้ และอัตราเงินเดือนเกิน 1 ล้านบาท เนื่องจากเป็นที่ต้องการในตลาด ขณะที่ปริมาณคนในสายงานเทคโนโลยีมีจำกัด โดยเฉพาะในสายงานการผลิตที่เริ่มกลับมาจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 40% รองลงมาคือกลุ่มธนาคาร และโทรคมนาคม

“ช่วงโควิด-19 ระลอกแรกเมื่อปี 2563 มีคนตกงานราว 3 ล้านคน โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลุ่มเงินเดือน 30,000 บาทลงไป ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสายงานทั่วไป สำหรับตำแหน่งงานที่มีความต้องการลดลงมาต่อเนื่องหลายปี จะเป็นสายงานที่ ไม่มีผลกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่นสายงานด้านการศึกษา เนื่องจากการศึกษาในปัจจุบันสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนได้แล้วเป็นต้น”

น.ส.พรลัดดา กล่าวและว่าในขณะเดียวกันแรงงานที่มีทักษะสูงในประเทศไทยพร้อมที่จะออกไปทำงานในต่างประเทศ และแรงานต่างชาติก็เช่นกันพร้อมที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทย ดังนั้นแรงงานไทยควรต้องมีการยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น (อัพสกิล) เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และ สร้างทักษะใหม่ในการทำงาน (รีสกิล)ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

โดยล่าสุดจ๊อบส์ ดีบี ได้ปรับรูปลักษณ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่เพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน ผ่านการเปิดตัวแคมเปญ “หางานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่เลือก” และเปิดตัวโซลูชันใหมให้ภาคธุรกิจและคนหางาน รวมถึงการพัฒนาโครงการ “ยกระดับความรู้ ก้าวสู่งานที่ใช่” กิจกรรมยกระดับทักษะคนหางานผ่านคอร์สเรียนออนไลน์ “อัพสกิล รีสกิล” รวมกว่า 80 คอร์ส มีจำนวนประกาศงานใหม่ต่อเดือนทั้งหมดกว่า 10,000 งาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน