นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี เปิดเผยว่า ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) ได้ร่วมกันดำเนินการโครงการขยายกำลังการผลิตโรงงานมาบตาพุดโอเลฟินส์ (MOC Debottleneck หรือ MOCD) แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนและเริ่มทดลองดำเนินการผลิตแล้ว คาดว่าจะผลิตได้เต็มกำลังภายในเดือนพ.ค.นี้ ทำให้มีกำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่มขึ้น 350,000 ตันต่อปี ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน สนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของอุตสาหกรรมทั่วโลก ยกระดับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีไทย

นายธนวงษ์ อารีรัชชกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า โครงการ MOCD มีความยืดหยุ่นในการเลือกใช้วัตถุดิบ และยังใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ทำให้กระบวนการผลิตมีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำลง และยังประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายบัมบัง จันดรา รองประธานฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษของ Dow กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างของ Dow ในตลาดบรรจุภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษมีการเติบโตเป็นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นผลจากเมกะเทรนด์ เช่น ความยั่งยืน อุตสาหกรรม 4.0 และการดูแลสุขภาพที่ผู้คนให้ความใส่ใจ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นทสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า การลงทุนและนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทยในด้านเทคโนโลยีและศักยภาพการแข่งขัน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

บริษัท มาบตาพุด โอเลฟินส์ จำกัด (MOC) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่เอสซีจีถือหุ้นทั้งหมด และ บริษัท Dow โดยเอสซีจีมีสัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมใน MOC อยู่ 67% และ Dow ถือหุ้นทางตรงและทางอ้อมในส่วนที่เหลือทั้งหมด 33% ได้อนุมัติโครงการขยายกำลังการผลิตของ MOC เมื่อปี 2561 ด้วยเงินลงทุนประมาณ 15,500 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน