นายกสมาคมไทยธุรกิจการ ท่องเที่ยว (แอตต้า) ขอรัฐบาลช่วยเจียดเงินกู้ 7 แสนล้านช่วยท่องเที่ยว พร้อมวอนรัฐบาลชัดเจนแก้ปัญหาโควิดรับเปิดประเทศ ชี้มากกว่า 1 ปีแล้วที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหาย 100% อีกทั้งผู้ประกอบการเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือ
วันที่ 19 พ.ค.2564 นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการ ท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการคือ การนำเข้าและกระจายฉีดวัคซีนต้านไวรัสให้ทั่วถึงในกลุ่มเป้าหมายหลักทั้งประเทศ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยจากการระบาดโควิดระลอกใหม่ ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำได้อีก โดยหากรัฐบาลสามารถทำได้ จะมีโอกาสในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติชัดเจนมากขึ้น
” ขณะนี้รัฐบาลมีแผนในการนำร่องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านภูเก็ตโมเดล ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ซึ่งหากสามารถทำได้จะถือเป็นตัวชูโรงให้กับประเทศไทย ว่ามีพื้นที่ที่สะอาดและปลอดเชื้อโควิดอย่างแท้จริงแล้ว แต่เนื่องจากรัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ และหากประเมินสัญญาณในตอนนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะควบคุมได้ในช่วงใด หากใช้เวลาในการคุมการระบาดทั้งเดือนพ.ค.นี้ จนถึงเดือนมิ.ย.นี้ทั้งเดือน เท่ากับว่าโอกาสในการเปิดประเทศตามไทม์ไลน์ นำร่องภูเก็ตโมเดลในวันที่ 1 ก.ค.64 อาจมีโอกาสเป็นไปได้น้อยลง ”
นายศิษฎิวัชร กล่าวต่อว่า หลังการระบาดโควิดระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน ผ่านมามากกว่า 1 ปีแล้วที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป 100% แม้ในระยะหลังจะมีเข้ามาบ้าง แต่ก็เป็นจำนวนที่น้อยมาก จนไม่ได้เกิดอานิสงส์เชิงบวกขึ้น ขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยว อาทิ บริษัททัวร์นำเที่ยว ขนส่งท่องเที่ยว ที่รองรับตลาดต่างชาติเป็นหลัก (อินบาวด์) ผู้ประกอบการได้ปิดธุรกิจลงชั่วคราวแล้วเกือบ 100% ส่วนที่ปิดธุรกิจถาวรและเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว
คาดว่าอย่างน้อยมีเป็นหลักมากกว่า 10% ประเมินว่าผู้ประกอบการที่ปิดชั่วคราว เพื่อรอดูทิศทางในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ หากยังไม่มีความชัดเจนในการเปิดประเทศจริง คาดว่าจะมีผู้ประกอบการที่ปิดตัวชั่วคราว ต้องปิดตัวลงภาวรและเปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นอีกจำนวนมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการระบาดโควิดต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ผ่านมาแล้ว 1 ปีกว่าแต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐได้ โดยเฉพาะแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
“ กรณีที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติให้กระทรวงคลังกู้เงิน 7 แสนล้านบาท อยากให้นำมาใส่เป็นงบประมาณในภาคการท่องเที่ยว เพราะท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้หลักเข้าประเทศไทย โดยเฉพะท่องเที่ยวถือเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน และการหมุนเวียรรายได้ในหลายส่วน เชื่อว่าหากรัฐบาลสามารถแบ่งงบประมาณมาฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมได้ด้วย อาจแบ่งเป็นงบประมาณเพื่อใช้ในการเยียวยาผู้ประกอบการธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือมากที่สุด ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่เคยขอไปแล้ว อาทิ แหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่จะช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจพยุงตัวเองอยู่ได้
Advertisement
หากรัฐบาลมองว่าภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนสำคัญ ในการฟื้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รัฐจะต้องเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ออกมาเป็นมาตรการช่วยในภาคการท่องเที่ยวโดยเฉพาะเลย แม้จะมีบางมาตรการที่สามารถช่วยได้ แต่มักเป็นการหว่านความช่วยเหลือแบบรวมๆ มากกว่า จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาตรงส่วนนี้ด้วย”
