ยอดผลิตรถยนต์เดือนเม.ย.โตโป่ง 322.30% เหตุเทียบฐานปีก่อนล็อกดาวน์ ลุ้นไทยเอาโควิดอยู่หนุนยอดผลิตแตะ 1.7 ล้านคัน

ยอดผลิตรถเม.ย.โตกระฉูด – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนเม.ย. 2564 ผลิตได้ 104,355 คัน เพิ่มขึ้น 322.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ฐานต่ำ เพราะมีการล็อกดาวน์ประเทศจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกแรกช่วงต้นปี 2563 และขอให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ดังนั้นจึงเทียบกับเดือนเม.ย. 2562 ที่เป็นภาวะปกติก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 พบว่ายอดผลิตลดลง 30.44%

ส่วนยอดผลิตรถยนต์ 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 2564) อยู่ที่ 570,188 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.19% ทางกลุ่มรถยนต์ฯ จึงยังคงตั้งเป้าหมายการผลิตปี 2564 ไว้ที่ 1,500,000 คัน ซึ่งเป็นเป้าต่ำสุดที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่าและอาจจะผลิตไปได้ถึง 1,700,000 คัน หากไทยสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ การระบาดในต่างประเทศลดลง และปัญหาขาดแคลนชิพไม่รุนแรงมากไปกว่านี้ ทางกลุ่มรถยนต์ฯ จึงขอติดตามดูสถานการณ์อีก 2 เดือน ว่าจะปรับเป้าหมายเพิ่มขึ้นหรือไม่

“ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเพิ่มเป้าการผลิตรถยนต์ เพราะยังกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 ระลอกสามในประเทศที่พบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือไม่ รวมถึงเรื่องปัญหาการขาดแคลนชิปที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในไทยบางแห่งและทั่วโลกต้องหยุดผลิตชั่วคราวเป็นระยะๆ โดยผู้ผลิตในไทยต้องหยุดผลิตรถยนต์บางรุ่นตั้งแต่ 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เพื่อนำชิพไปผลิตรถยนต์รุ่นยอดนิยมที่มียอดขายสูงก่อน คาดว่าปัญหานี้อาจยืดเยื้อไปอีก 2 ปี ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะทำให้การผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะหายไปประมาณ 1 ล้านคันต่อไตรมาส คิดเป็นสัดส่วนที่หายไป 1% จากยอดการผลิตทั่วโลก 20 ล้านคันต่อไตรมาส”

โดยยอดผลิตเดือนเม.ย. 2564 ที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดผลิตเพื่อส่งออกผลิตได้ 59,684 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 335.24% รวม 4 เดือนผลิตเพื่อส่งออกได้ 330,379 คัน เพิ่มขึ้น 23.45% และยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 44,671 คัน เพิ่มขึ้น 306.17% รวม 4 เดือนยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศผลิตได้ 239,809 คัน เพิ่มขึ้น 13.77%

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนเม.ย. 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,132 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 93.1% เทียบจากฐานปีก่อนต่ำ แต่ลดลง 23.45% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 2562 เนื่องจากมีลูกค้าที่จองขอเลื่อนการรับรถยนต์ไปก่อน เพราะไม่มั่นใจเรื่องรายได้ในอนาคตจากการระบาดของโควิด-19 ประกอบกับบริษัทปล่อยสินเชื่อก็เข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อด้วย รวม 4 เดือนมียอดขายรถยนต์ในประเทศ 252,269 คัน เพิ่มขึ้น 9.6%

ขณะเดียวกัน การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เดือนเม.ย. 2564 ส่งออกได้ 52,880 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 160.16% จากฐานปีที่แล้วต่ำเพราะมีการล็อกดาวน์เช่นกัน ลดลง 21.21% เทียบกับเดือนเม.ย. 2562 มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 30,071.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 142.73%

นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้นของประเทศคู่ค้า ทำให้ยอดขายของประเทศคู่ค้าในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เติบโตอย่างโดดเด่นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน เช่น ประเทศออสเตรเลียเติบโต 127% ญี่ปุ่นเติบโต 29% เวียดนามเติบโต 75% อินโดนีเซียเติบโต 1,002%

ดังนั้น มูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนเม.ย. 2564 อยู่ที่ 49,374.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 82.68% รวม 4 เดือนมูลค่าส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 261,013.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 23.33%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน