รถไฟ ลั่น ต.ค. ชง ครม.ไฟเขียว ผุดทางคู่ ช่วง ขอนแก่น-หนองคาย 2.6 หมื่นล้าน – เร่งสปีดประมูล ธ.ค.นี้ ก่อนอีไอเอหมดอายุ

ชงผุดทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย – รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายนโยบายกระทรวงคมนาคมสั่งการให้ รฟท. เร่งรัดการดำเนินโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ช่วง ขอนแก่น-หนองคาย เป็นการเร่งด่วน เนื่องจากเป็นโครงการที่ผ่านการอนุมัติรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จากคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) มาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2561 หรือกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนผลการอนุมัติอีไอเอ มีอายุครบ 5 ปี และยังไม่มีการเริ่มดำเนินโครงการ ตามกฎหมายจะถือว่าอีไอเอฉบับดังกล่าวจะหมดอายุ ไม่สามารถนำมาใช้ได้อีก และจะต้องจัดทำอีไอเอใหม่หากจะดำเนินโครงการ อาจจะส่งผลกระทบทำให้โครงการดังกล่าวล่าช้าออกไปอีก จึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินโครงการให้เร็วที่สุด เบื้องต้น รฟท. ได้ปรับแผนงานโดยได้นำเสนอโครงการรถไฟทางคู่ ช่วง ขอนแก่น-หนองคาย ขึ้นมาประมูลก่อนโครงการอื่นแล้ว

“โครงการนี้มีความพร้อมมาก เพราะผ่านอีไอเอมานานแล้ว ขณะนี้ รฟท. ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ให้พิจารณารายละเอียดแล้ว อยู่ระหว่างรอความเห็นเพิ่มเติมจากสภาพัฒน์ฯ ส่งกลับมา คาดว่าจะนำเสนอโครงการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติได้ในเดือนต.ค. 2564 และเปิดประมูลได้ในเดือน ธ.ค. 2564 หรืออย่างช้าในเดือน ม.ค.ปี 2565 ตั้งเป้าเริ่มก่อสร้างในช่วง มิ.ย. ปี 2565 ใช้เวลาก่อสร้างพร้อมติดตั้งอาณัติสัญญาณและระบบโทรคมนาคม 4 ปี แล้วเสร็จช่วงมิ.ย.ปี 2569”

รายงานข่าวจาก รฟท. แจ้งว่า สำหรับทางคู่ ช่วง ขอนแก่น-หนองคาย มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 167 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 26,647 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่างานก่อสร้างรวมภาษี 2,5079 ล้านบาท, ค่าเครื่องจักรในการก่อสร้าง 763 ล้านบาท, ค่าจ้างที่ปรึกษาคุมงาน 543 ล้านบาท และ ค่าใช้จ่ายด้านอสังหาริมทรัพย์ 262 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการศึกษาความคุ้มค่าของการลงทุนพบว่ามีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 18.57% โดยอัตราผลตอบแทนปีแรกคาดว่าจะอยู่ที่ 0.75% สามารถช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งที่ต่ำกว่าการขนส่งทางถนนได้ 2-3 เท่า

สำหรับแนวเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินรถไฟ หรือเขตทางรถไฟเดิม ทั้งนี้ เพื่อลดผล กระทบจากการเวนคืนที่ดิน โดยมีที่ดินต้องเวนคืนเพียงบางส่วนประมาณ 176 ไร่ เพื่อปรับแนวเส้นทางรองรับความเร็ว 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยโครงการดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นที่ กม.453+955 ต่อจากรถไฟทางคู่ ช่วงจิระ-ขอนแก่น และสิ้นสุดโครงการ ที่สถานีรถไฟหนองคาย กม.620+500

ทั้งนี้ ตลอดเส้นทาง 167 กิโลเมตร จะมีการก่อสร้างอาคารสถานีแห่งใหม่ ซึ่งจะเป็นสถานีขนาดเล็ก จำนวน 6 สถานี ได้แก่ น้ำพอง, โนนสะอาด, หนองตะไก้, เขาสวนกวาง, กุมภวาปี และ นาทา และมีการปรับปรุงอาคารสถานีเดิม จำนวน 6 สถานี ได้แก่ สำราญ, ห้วยเกิ้ง, หนองขอนกว้าง, โนนพระยอม, ห้วยสามยอด และนาพู่ และยังมีที่หยุดรถ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ห้วยไห, บ้านวังชัย, ห้วยเสียว และ คำกลิ้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน