นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) บริษัทเงินร่วมลงทุนของธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย มุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการธุรกิจทุกประเภท ซึ่งในปีนี้ได้วางเป้าหมายการลงทุนไว้ประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลงทุนในสตาร์ตอัพกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เช่น บล็อกเชน หรือธุรกิจที่พัฒนานวัตกรรมที่สามารถสนับสนุนธนาคารได้ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้งบประมาณการลงทุนไปแล้ว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการลงทุนไปแล้วทั้งหมด ขณะเดียวกันล่าสุดเพิ่งได้รับการอนุมัติงบลงทุนจากธนาคารกสิกรไทยเพิ่มเข้ามาอีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยล่าสุด บีคอน วีซี เข้าลงทุนและร่วมมือกับทาง FoodStory ซึ่งเป็นสตาร์ตอัพในด้านการพัฒนาระบบ POS หรือ ระบบจัดการหลักภายในร้าน เพื่อการบันทึกการขายทั้งทางหน้าร้านและออนไลน์ ซึ่งระบบจะเชื่อมต่อข้อมูลของทั้งหน้าร้านและออนไลน์เข้าด้วยกัน ทั้งเรื่องรายได้ และตัวช่วยจัดการสต๊อกสินค้าโดยมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารรายย่อย ให้สามารถทำรายงานการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงการบริการทางด้านการเงินอย่างครบวงจรและใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูล หรือดาต้า เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจได้ดีขึ้น

“ปี 2564 ธุรกิจร้านอาหารยังคงมีความเสี่ยงสูงเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เเต่ บีคอน วีซีเชื่อว่า FoodStory จะเป็นช่องทางสำคัญที่จะสามารถช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารได้ โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนจากการขายหน้าร้านมาเป็นการขายแบบเดลิเวอรี่ ระบบจัดการดังกล่าวนอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารร้านได้ง่ายมากขึ้นแล้ว ยังสามารถเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่และสามารถเพิ่มยอดขายได้อีกด้วย”ธนพงษ์ กล่าว

ด้านนายธเนศ พิริย์โยธินกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการค้า พัฒนาธุรกิจ และการลงทุน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร กล่าวว่าแนวโน้มธุรกิจอาหารจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะในช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ ทำให้บริษัทได้มีการลงทุนใน FoodStory ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ อี-คอมเมิร์ซ ที่สำคัญในการขยายการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ด้านอาหารผ่านแพลตฟอร์ม แอพพลิเคชั่น เพื่อที่จะทำให้บริษัทสามารถขยายบริการโลจิสติกส์ทางด้านอาหารให้ครอบคลุมทั้งตลาด ธุรกิจ กับ ธุรกิจ (B2B) ธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) และ ร้านค้ารายย่อยกับผู้บริโภค (C2C) ในอนาคต โดยผ่านการขยายบริการทางด้านการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบเร่งด่วน พร้อมกับการขยายเน็ตเวิร์กการกระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิผ่านการขยายคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิของบริษัทในอนาคตตามแผนธุรกิจที่วางไว้

ด้านนายฐากูร ชาติสุทธิผล ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัว FoodStory Market เพื่อทำให้การจัดการสั่งซื้อวัตถุเป็นเรื่องง่าย เพื่อแก้ไขจุดอ่อนของราคาวัตถุดิบที่ผันผวน สั่งซื้อยาก ต้องไปจ่ายตลาดเอง และป้องกันการโกงราคาจากพนักงานจัดซื้อ พร้อมทั้งยังเชื่อมต่ออัตโนมัติด้วย POS Inventory Management เต็มรูปแบบ พร้อมด้วยการชำระเงินออนไลน์ และการส่งใบกำกับภาษีผ่าน E-TAX Invoice ซึ่งการมีระบบนิเวศน์ของธุรกิจร้านอาหารที่สมบูรณ์แบบเพื่อเชื่อมต่อตั้งแต่ Farm to Folk นั้น บริษัทจำเป็นต้องมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งทางด้านการเงิน อย่างธนาคารกสิกรไทย และระบบขนส่งรถเย็น จาก เจดับเบิ้ลยูดี ที่จะเข้ามาเติมเต็มและต่อยอดธุรกิจซัพพลายเชนรูปแบบใหม่ได้

“ภาพรวมร้านอาหารในประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 4-5 แสนร้านค้า ปัจจุบัน Foodstory มีฐานลูกค้าส่วนนี้ยังไม่มาก ทำให้เห็นโอกาสทางธุรกิจสูงมาก ผ่านการให้บริการใน 2 แพลตฟอร์ม คือ แพลตฟอร์มการบริหารจัดการร้านอาหาร POS กับ Foodstory Market ซึ่งเมื่อทั้ง 2 ส่วนเชื่อมต่อกัน จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลดการสัมผัสมากขึ้น ลดการเดินทาง และทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถโฟกัสธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น มีเวลาในการวิเคราะห์ วางแผนการเติบโตของธุรกิจได้ดีขึ้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน