ส.อ.ท. เล็งปรับเป้ารถยนต์แตะ 1.6 ล้านคัน หลังสัญญาณส่งออกเป็นบวก จับตาปัญหาชิปขาด-สถานการณ์โควิด-19 หวังรัฐเร่งฉีดวัคซีน
ส.อ.ท. เล็งปรับเป้ารถยนต์ – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ส.อ.ท. อยู่ระหว่างติดภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) ที่กระทบการผลิตรถยนต์บางรุ่นต้องปิดไลน์การผลิตไปก่อนหน้านี้ แม้จะสามารถกลับมาผลิตได้เป็นปกติ แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย โดยเฉพาะในคลัสเตอร์โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ว่าจะส่งผลกระทบต่อแผนการผลิตรถยนต์แค่ไหน เพื่อประกอบการพิจารณาทบทวนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ใหม่อีกครั้งในเดือนก.ค.นี้
“หากปัจจัยข้างต้นกระทบการผลิตรถยนต์ไม่มาก ประกอบกับภาครัฐสามารถเร่งฉีดวัคซีนกระจายได้ทั่วถึงทั้งประเทศ ก็มีโอกาสที่ยอดผลิตรถยนต์ปีนี้ทั้งปีจะผลิตได้เพิ่มขึ้น 50,000-100,000 คัน จากเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ 1,500,000 คัน มาอยู่ที่ 1,550,000-1,600,000 คัน โดยเป็นการผลิตเพื่อส่งออกที่มีสัญญาณบวกเป็นพระเอก และคาดว่าจะเกินกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ 750,000 คัน ไปสู่ระดับ 800,000-850,000 คัน ส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศยังคงเป้าอยู่ที่ 750,000 คัน”
โดยภาพรวมยอดผลิตที่ปรับตัวดีขึ้นจะเห็นได้จาก 5 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค. 2564) ผลิตได้ 710,356 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.92% แบ่งเป็นยอดผลิตเพื่อส่งออกได้ 411,663 คัน เพิ่มขึ้น 35.60% และเป็นยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 298,693 คัน เพิ่มขึ้น 29.39% เช่นเดียวกับยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 5 เดือนอยู่ที่ 390,467 คัน เพิ่มขึ้น 29.94% และยอดขายในประเทศอยู่ที่ 308,221 คัน เพิ่มขึ้น 13.9%
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ค. 2564 มีทั้งสิ้น 140,168 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 150.14% จากการผลิตเพื่อส่งออก 81,284 คัน เพิ่มขึ้น 126.01% และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 58,884 คัน เพิ่มขึ้น 193.39% เนื่องจากฐานปีที่แล้วต่ำเพราะมีการล็อกดาวน์ในเดือนเม.ย. และห้ามจัดงานมอเตอร์โชว์ปลายเดือนมี.ค. ทำให้สต็อกรถยนต์ในโชว์รูมยังมีจำนวนมาก บางบริษัทจึงยังไม่มีการผลิตรถยนต์ในเดือนพ.ค.
สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนพ.ค. 2564 อยู่ที่ 55,942 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38.4% เพราะฐานต่ำปีที่แล้ว แต่ลดลง 3.77% จากเดือนเม.ย.2564 เพราะการระบาดของโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้ประชาชนยังกังวลเรื่องรายได้ในอนาคต รวมทั้งสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และยังน้อยกว่าเดือนพ.ค. 2562 ที่ 35.76%
การส่งออกเดือนพ.ค. 2564 อยู่ที่ 79,479 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 165.87% ถือเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง เพราะฐานต่ำในปีที่แล้วเช่นกัน และเพิ่มขึ้น 50.30% จากเดือนเม.ย. 2564 เนื่องจากประเทศคู่ค้าเริ่มมียอดขายรถยนต์ในประเทศดีขึ้น เช่น ออสเตรเลียขายรถยนต์เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 68.3% เวียดนามขายในประเทศเพิ่มขึ้น 34.1% ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 46.3% อินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 1,443% เป็นต้น แต่ยังส่งออกน้อยกว่าเดือนพ.ค. 2562 ที่ 16.63%
