สายการบิน สกู๊ต เล็งกลับมาเปิดบิน 4 เส้นทางในไทย -ส่งแอร์บัส A321neo ประเดิมตลาดไทยเป็นที่แรก รองรับเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น

นายแคมป์เบล วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินสกู๊ต เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวผ่านแอพพลิเคชั่น Zoom วันนี้(29มิ.ย.)ว่าสายการบินสกู๊ต โลว์คอส ของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้เปิดให้บริการด้วยเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุด แอร์บัส A321neo โดยนำร่องเที่ยวบินแรกในประเทศไทย เส้นทางจากสิงคโปร์ สู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่วันที่ 28 มิถุนายน 2564 โดยในเดือนสิงหาคม จะเริ่มให้บริการเส้นทางบินสิงคโปร์–เซบู (ฟิลิปปินส์) และสิงคโปร์–โฮจิมินห์ (เวียดนาม)ต่อไป

ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรองรับตลาดการเดินทางมายังไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดสกู๊ตได้ให้บริการในเส้นทาง สิงคโปร์–กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) จำนวน 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งเครื่องบินรุ่นใหม่สามารถรองรับผู้โดยสาร 236 ที่นั่ง รองรับแผนการเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางบินใหม่ได้มากขึ้นในอนาคต และยังมีเทคโนโลยีทันสมัยที่ช่วยลดอาการเจ็ทแลค และเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ รวมทั้งยังเป็นเครื่องยนต์ที่ช่วยประหยัดต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้12-20% ซึ่งจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น

นายแคมป์เบลกล่าวถึงแผนการขยายการบินมายังไทยว่า ไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของกลุ่มนักท่องเที่ยว และคนทำงาน เชื่อว่ายังมีแนวโน้มความต้องการเดินทางสูง เป็นตลาดที่เข้มแข็ง โดยหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย รัฐบาลไทยมีการเปิดประเทศ คาดว่าตลาดเอเชียและไทยจะฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นสายการบินสกู๊ตจึงเตรียมแผนที่จะกลับมาเปิดเส้นทางบินมายังไทยอีกครั้ง ใน 4 เส้นทางบินที่มีศักยภาพ ได้แก่ เส้นทาง สิงคโปร์–เชียงใหม่ ,สิงคโปร์–หาดใหญ่, สิงคโปร์–กระบี่ และ สิงคโปร์–กรุงเทพฯ–โตเกียวในเร็วๆ นี้ ส่วนการทำการบินไปยังภูเก็ตในโครงการภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์นั้น ในระยะแรก สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สายการบินแม่ของสกู๊ตจะเป็นผู้ให้บริการก่อน หากมีแนวโน้มที่ดี สกู๊ตจึงจะพิจารณาเปิดบินเพิ่มเติม

“หากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย สกู๊ต จะกลับมาทยอยเปิดบินในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเริ่มจากเส้นทางเดิมก่อน ซึ่งล่าสุดได้กลับมาเปิดบินแล้วประมาณ 20% หรือประมาณ 26 จุดบิน จากจุดบินที่เคยเปิดบินรวมทั้งสิ้น 68 จุดบินในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 “

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาสกู๊ต ได้มีการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารด้านราคา การจำหน่ายตั๋วโดยสารให้มีความทันสมัยมากขึ้น โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ ด้วยการจองตั๋ว ชำระเงิน และเช็คอิน ผ่านระบบออนไลน์ และแอพพลิเคชั่นในมือถือ เพื่อลดจุดสัมผัสเสี่ยง รวมทั้งมีการการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับ นักบิน ลูกเรือ และฝูงบิน เพื่อรองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินในอนาคต โดยล่าสุดมีฝูงบินที่ให้บริการประกอบด้วย เครื่องบินแบบมีช่องทางเดินเดียว จำนวน 29 ลำ ได้แก่ A320ceo 21 ลำ A320neo 5 ลำ และ A321neo 3 ลำ นอกจากนี้ ยังมี A320neo 28 ลำ และ A321neo อีก 13 ลำ ที่กำลังรอการส่งมอบ ส่วนเครื่องบินแบบลำตัวกว้างของสกู๊ตมีจำนวน 20 ลำ เป็นเครื่องบินรุ่นโบอิ้ง 787 ทั้งหมด และกำลังรอการส่งมอบเพิ่มอีก 7 ลำ โดยอายุเฉลี่ยของฝูงบินของสกู๊ตในขณะนี้อยู่ที่ 5 ปี 10 เดือน

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน