นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ร่วมลงนามกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในพิธีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลในระบบการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME Big Data) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมถึงการบริหารจัดการและพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลผ่านเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อการติดตามสถานการณ์ การเติบโตของธุรกิจ ปัญหาอุปสรรคหรือความต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐ ติดตามการได้รับการส่งเสริมในด้านต่างๆ และการใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์การเตือนภัยสถานการณ์

โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถย้อนหลังถึง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2553 เป็นประโยชน์ให้เอสเอ็มอีนำไปวิเคราะห์ เพื่อให้มองเห็นภาพ สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์และวางแผนดำเนินธุรกิจในอนาคตได้ เช่น เลือกกลุ่มการผลิต เลือกโปรไฟล์ และเซ็กเมนต์ที่ตนเองสนใจ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานส.อ.ท. กล่าวว่า เอสเอ็มอีถือเป็นฐานรากสำคัญของประเทศ โดยปัจจุบันมีเอสเอ็มอีเป็นสัดส่วนมากถึง 99.54% ของวิสาหกิจทั้งประเทศ หรือมีจำนวนมากกว่า 3.13 ล้านราย มีการจ้างงานกว่า 12.71 ล้านคน หรือคิดเป็น 71.69% ของการจ้างงานทั้งหมดของประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ที่เกิดจากผู้ประกอบการรายย่อย ประมาณ 34.7% ของจีดีพี ทั้งประเทศในไตรมาส 1/2564

ดังนั้นการส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเข้มแข็ง จึงเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต และการมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของเอสเอ็มอีจึงเป็นประโยชน์ในการนำข้อมูลไปวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า คาดการณ์แนวโน้มของธุรกิจ การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน การพัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ รวมทั้งช่วยในการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจ และเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน