จับตาก้าวแรก‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’
ก่อนนับถอยหลังเปิดประเทศ120วัน
: รายงานพิเศษ เศรษฐกิจ
ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ – เวลา 11.09 น. วันที่ 1 ก.ค.2564 เป็นอีกหนึ่งหน้าบันทึกของไทย เมื่อสายการบินเอทิฮัด แอร์เวย์ เที่ยวบิน EY 430 ซึ่งบินมาจากเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลงแตะพื้นท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ของโครงการ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ ที่รัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยวบินเข้าไทยไม่ต้องกักตัว โดยสามารถเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้ ไม่ต้องพักอยู่ในโรงแรม เพียงนักท่องเที่ยวมาจากประเทศความเสี่ยงต่ำ และฉีดวัคซีนครบโดส ตามที่กระทรวงสาธารณสุขไทย และเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
แม้ก่อนวันเปิดจะมีปัญหา เกิดข้อกังวลขึ้นกับทั้งเอกชน และรัฐบาล เพราะมีกระแสข่าวว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่จองตั๋วโดยสารเครื่องบินสำหรับเดินทางร่วมโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไว้ไม่สามารถดำเนินการเพื่อยื่นขอใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย (ซีโออี : Certificate of Entry) จากกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ได้
เพราะกฎหมายยังไม่สมบูรณ์ การเปิดโครงการยังไม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หากเดินทางเเล้วต้องกักตัว 14 วันตามเกณฑ์ปกติของสธ.
อย่างไรก็ตาม หลังจากราชกิจจานุเบกษาประกาศในวันที่ 29 มิ.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า กต.ทำงานกันไม่ได้หยุดเพื่อออกซีโออีให้กับนักท่องเที่ยว
เพียงวันแรก ซีโออีก็อนุมัติได้มากกว่า 322 คน จากปกติต้องใช้กระบวนการตรวจสอบและอนุมัติประมาณ 3-5 วัน
นายพิพัฒน์กล่าวว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะไม่ล่ม ถึงอย่างไรก็ล่มไม่ได้ เพราะทุกฝ่ายต่างเดินหน้าโครงการมาขนาดนี้แล้ว ต้องประคับประคองให้สำเร็จให้ได้ นำร่องสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วันตามนโยบายของนายกฯ
ทั้งยังช่วยสร้างความหวังแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและคนไทยทั้งประเทศ ว่าประเทศไทยสามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับโรคโควิด-19 ได้ดีจนสามารถให้บางพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ หลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 มากว่า 1 ปีครึ่ง
“โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เป็นหนึ่งในนโยบายของนายกฯ ในการเปิดประเทศภายใน 120 วัน หากพื้นที่ไหนพร้อมสามารถดำเนินการเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เลย ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่พร้อม ยังไม่ต้องเปิด ทำให้ทุกหน่วยงานต้องทำงานแบบบูรณาการเพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้านมากที่สุดก่อนเปิดแต่ละพื้นที่รับนักท่องเที่ยว”
วันแรก ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ต 4 สายการบินได้แก่ สายการบินเอทิฮัด บินจากอาบูดาบี-ภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน EY430 จำนวน 37 คน
สายการบินกาตาร์แอร์เวยส์ บินจากโดฮา-ภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน QR840 จำนวน 116 คน
สายการบินแอล อัล อิสราเอล แอร์ไลน์ บินจากเทลอาวีฟ-ภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน LY87 จำนวน 101 คน
และสายการสิงคโปร์ แอร์ไลน์ บินจากสิงคโปร์-ภูเก็ต ด้วยเที่ยวบิน SQ736 จำนวน 46 คน
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บินมาร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมประกาศว่า
“อยากให้ภูเก็ตเป็นปราสาท เพราะเราตั้งชื่อว่าแซนด์บ็อกซ์ พูดง่ายๆ คือเราก่อร่างด้วยทรายขึ้นมา ปราสาททราย เราต้องเติมอิฐ หิน ปูนเข้าไปอีกเยอะ เพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ให้การท่องเที่ยวเรามีศักยภาพ มีคุณภาพ และปลอดภัย”
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า วันแรกผ่านไปด้วยดี นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยจำนวน 5 เที่ยวบิน มีรายงานนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมมาตรฐาน Sha Plus ที่ เข้าเช็กอินเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 325 คน สรุปผลตรวจโควิด-19 ทั้งหมดเป็นลบ คือไม่ติดเชื้อ
คนภูเก็ตมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวหลักล้วนเป็นนักท่องเที่ยวระยะไกล ก่อนการเปิดรับจึงต้องมีแผน 2 หากเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวแล้ว เกิดการระบาดใหม่อีกครั้ง
แผนเผชิญเหตุหากพบการระบาดหนักหลักเกณฑ์ดังนี้
1.จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 90 รายต่อสัปดาห์
2.พบลักษณะการกระจายโรคในจังหวัดทั้ง 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล
3.มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือมีการระบาดในวงกว้าง หาสาเหตุหรือความเชื่อมโยงไม่ได้
4.ความพร้อมในการรองรับผู้ป่วย มีผู้ติดเชื้อครองเตียงตั้งแต่ 80% ของศักยภาพของจังหวัด
และ 5.มีการพบการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้าง ควบคุมไม่ได้
มีมาตรการปรับเปลี่ยน 4 ระดับ ตั้งแต่การปรับลดกิจกรรม, Sealed Route หรือวางเส้นทางท่องเที่ยวตามกำหนด, Hotel Quarantine ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวให้อยู่บริเวณโรงแรมเท่านั้น และทบทวนยุติโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์
โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงต้องลุ้นต่อลุ้นกันวันต่อวัน เพราะยอดการติดเชื้อโดยรวมของคนไทยยังสูงกว่า 5,000 คนตลอด โดยวันที่ 1 ก.ค. มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 5,533 คน วันที่ 2 ก.ค. ผู้ติดเชื้อใหม่ 6,087 คน
แต่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ยืนยันว่าต้องแยกส่วนกันเพราะยอดติดเชื้อคนภูเก็ตเป็นหลักหน่วย บางวันไม่มี เอาคนทั้งประเทศมากำหนดภูเก็ตไม่ได้
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เริ่มต้นนำร่องเปิดประเทศ ผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ถือเป็นเรื่องที่ดีประเทศไทยเพราะต้องเริ่มต้น
การเริ่มต้นครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่หมายถึงการเริ่มต้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ โดยเฉพาะการลงทุน ที่ขณะนี้นักลงทุนต่างประเทศ ต่างให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุนในประเทศไทย สนใจเข้ามาดูช่องทางลงทุนโดยเฉพาะ ลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์
“การเริ่มต้นเปิดประเทศ เป็นการเริ่มต้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดการใช้จ่าย กระตุ้นการบริโภคในจังหวัดภูเก็ต มีความตื่นตัวที่จะรับนักท่องเที่ยวมาก ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ดังนั้น การนำร่องเปิดประเทศผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงเป็นการเปิดประเทศไทยในมุมมองใหม่ แหล่งท่องเที่ยว ที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองไทยรอนักท่องเที่ยวอยู่”
นางกอบกาญจน์กล่าวว่า หากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์จะนำไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ตามนโยบายพล.อ.ประยุทธ์ แต่ทั้งหมดจะเกิดไม่ได้หากวัคซีนไม่พร้อม ภูมิคุ้มกันหมู่จะเกิดไม่ได้
ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามใช้มาตรการปล่อยเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจ หลายหน่วยงานไม่อยากได้เพราะได้เงินกู้ไปนั่นหมายถึงเป็นหนี้ หากวัคซีนยังไม่มี อนาคตของประเทศไทยก็ยังมองไม่เห็น หากให้เลือกเงินกู้และวัคซีน หลายคนต้องการวัคซีนให้เร็วที่สุด
เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินการได้ จะได้เห็นอนาคต
