ผู้ประกันตน ม.33-39-40 ในจังหวัดล็อกดาวน์ รอรับโอนเงินเยียวยาพิเศษ 6 ส.ค. ผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน หลังครม.อนุมัติแล้ว

วันที่ 20 ก.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล รายงานงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอให้ขยายขอบเขตการบรรเทาผลกระทบและการปรับปรุงรายละเอียดของมติ ครม.เมื่อวันที่ 12 ก.ค.64

เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ซึ่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ประกาศยกระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดงเข้ม) ในพื้นที่ 10 จังหวัด เป็น 13 จังหวัด ได้แก่ กทม. นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา โดยพื้นที่เพิ่มมา 3 จังหวัดล่าสุดตามประกาศศบค.ฉบับที่ 27 ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี พระนครศรีอยุธยา

โดยการให้ความช่วยเหลือแรงงงานในระบบประกันสังคมแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มแรงงานตาม ม.33 ในกิจการ 9 หมวด รัฐจ่ายเงินเยียวยาให้ 50 % ของรายได้ (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) และจ่ายสมทบให้ลูกจ้างสัญชาติไทยอีก 2,500 บาทต่อคน รวมแล้วได้สูงสุดไม่เกิน10,000 บาท

2.ผู้ประกอบการหรือนายจ้าง ตามหลักการให้ความช่วยเหลือจะได้รับความช่วยเหลือตามจำนวนลูกจ้างสูงสุดไม่เกิน 200 คน ในอัตรา 3,000บาทต่อคน จำนวน 1 เดือน

3.ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทยที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน จะได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000บาท จำนวน 1 เดือน ผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 สัญชาติไทยที่ยังคงประกอบอาชีพอยู่ในปัจจุบัน ให้เตรียมหลักฐานเพื่อลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 กับสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนก.ค.64 เพื่อให้สามารถได้รับความช่วยเหลือในอัตรา 5,000 บาท จำนวน 1 เดือน

รายงานข่าวแจ้งว่า ครม.เห็นชอบขั้นตอนการดำเนินงานการจ่ายเงินเยียวยา กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศมาตรการล็อกดาวน์ใน 9 กิจการ โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีนายจ้าง-ลูกจ้างตามมาตรา 33 ผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขประจำตัวประชาชน ในวันที่ 6 ส.ค.64

ส่วนผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และ 40 ซึ่งเป็นกลุ่มฟรีแลนซ์และอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ครั้งล่าสุด รัฐบาลจะเยียวยา 5,000 บาท โดยผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนในมาตรา 39 และ 40 ก่อนวันที่ 28 มิ.ย.64 ให้รีบสมัครภายในวันที่ 30 ก.ค. 64 เพื่อสำนักงานประกันสังคมจะได้ส่งข้อมูล และโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ ในวันที่ 6 ส.ค.64

ขณะที่นายจ้างผู้ประกอบการ ในระบบ “ถุงเงิน” 5 หมวด ให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 33 ภายในเดือ ก.ค. เพื่อรับเงินช่วยเหลือตามผู้ประกอบการในระบบถุงเงิน 5 หมวด ภายใต้โครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ที่ไม่มีลูกจ้างให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนมาตรา 40 ภายในเดือนก.ค. เพื่อรับค่าช่วยเหลือ 5,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน