สมาคมประกันชีวิตไทย รวบรวมตัวเลขขอเครมประกันโควิด ส่ง คปภ. ใช้ประเมินจำนวนการเครม ยอมรับ ไม่มีหลักเกณฑ์ปฏิบัติกรณีหาเตียงไม่ได้

นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างอยู่ในขณะนี้ มีผลให้ลูกค้าที่ซื้อประกันสุขภาพมีการเคลมประกันเพิ่มขึ้นจำนวนมากตามจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดีขณะนี้ทางสมาคมประกันชีวิต ยังไม่ได้มีการเก็บรวบรวมตัวเลขจากบริษัทประกันที่เป็นสมาชิก

แต่ทั้งนี้ล่าสุดทาง คปภ.ได้ขอความร่วมมือจากบริษัทประกันชีวิต ให้ส่งข้อมูลการเคลมประกันโควิดให้กับ คปภ. เพื่อใช้ในการประเมินจำนวนการเคลมจากโควิด ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้สำหรับบริษัทประกันชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีความคุ้มครองด้านสุขภาพอยู่แล้ว และส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มที่ครอบคลุมไปถึงการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่แล้ว โดยในส่วนของบริษัทประกันก็พร้อมจะให้ความคุ้มครองเต็มที่อยู่แล้ว

ต้องยอมรับว่า บริษัทประกันไม่มีหลักเกณฑ์ เฉพาะในการที่เลือกปฏิบัติกับผู้เอาประกันในกรณีติดเชื้อโควิดและไม่สามารถหาสถานพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาได้ อย่างที่เข้าใจกันว่าสถานการณ์ปัจจุบันโรงพยาบาลมีคนไข้เข้ารับการรักษาจากโรคไวรัสโควิด-19 จนทำให้เตียงผู้ป่วยเต็ม ซึ่งในส่วนของบริษัทประกัน จะช่วยประสานงานหาทางให้ลูกค้าเข้าไปลงทะเบียนรับการรักษามากกว่า แต่ข้อจำกัดอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกันก็ประสบปัญหาในลักษณะนี้เช่นกัน

“บริษัทประกัน ก็คือบริษัทประกัน โรงพยาบาลก็คือโรงพยาบาล การหาเตียงไม่ได้มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับกันการทำประกัน เพียงแต่การมีประกันจะเป็นตัวช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ทั้งชีวิตและค่าใช้จ่าย สัญญาที่บริษัทประกันขีวิตทำกับโรงพยาบาลมาตั้งแต่ยาวนานแล้ว ไม่ว่าจะป่วยจากโรคร้ายแรง หรือป่วยจากโรคอื่นๆ ที่ต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลจะมาคิดค่าใช้จ่ายกับทางบริษัทประกัน”

นายสาระ กล่าวว่า อยากให้ความสบายใจกับผู้ทำประกันว่า ความคุ้มครองสุขภาพที่ได้ซื้อกับทางบริษัทประกันไปแล้ว แม้ว่าบริษัทประกันไม่ได้มีเงื่อนไขยกเว้นโรคอุบัติใหม่ เช่น โควิด-19 ซึ่งไม่ได้มีข้อจำกัดในการคุ้มครองการจ่ายค่ารักษาพยาบาล และหลายๆ เรื่อง ยังได้อนุโลมโดยขยายความคุ้มครองการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีที่มีค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) และชดเชยรายวัน ในกรณีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และแพทย์ผู้ดูแลรักษาของหน่วยบริการสาธารณสุขเห็นสมควรให้สามารถแยกกักตัวในที่พัก หรือ Home Isolation หรือแยกกักตัวในชุมชน หรือ Community Isolation ได้ ตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอีกด้วย

สำหรับแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตในปี 2564 สมาคมฯ คาดว่าเบี้ยรับรวมจะอยู่ที่ 594,397-604,797 ล้านบาท หรือติดลบ 1 ถึง บวก 1% สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานธุรกิจประกันชีวิตครึ่งปีแรก มีเบี้ยรับรวม 294,897 ล้านบาท เติบโต 3.13% และมีเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 211,151 ล้านบาท ขยายตัว 0.68% โดยมีสัดส่วนจากช่องทางการจัดจำหน่ายหลัก ได้แก่ ช่องทางตัวแทน 48.43% มีอัตราการขยายตัว 0.39% ช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ หรือช่องทางธนาคาร 42.08% ซึ่งขยายตัว 6.45% และช่องทางอื่นๆ อีกเกือบ 10%

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน