สนามบินสุวรรณภูมิ ซมพิษโควิด 2 ปี เผย 11 เดือน ผู้โดยสารลดลง 80.7% – ลุยพัฒนาอาคาร-บริการขนส่งคนและสินค้า

สุวรรณภูมิซมพิษโควิด – น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ธุรกิจการบินทั่วโลกวิกฤตอย่างหนัก ติดต่อกัน 2 ปี ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ ทสภ. เป็นอย่างมาก จากจำนวนผู้โดยสาร เที่ยวบิน และปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ลดลง

โดยผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2564 ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 – ส.ค. 2564 (รวม 11 เดือน) ทสภ. มีสายการบินประจำให้บริการจำนวน 77 สายการบิน โดยมีเที่ยวบินที่ทำการบินขึ้น-ลงรวมทั้งสิ้น 113,000 เที่ยวบิน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 46.4% มีผู้โดยสารใช้บริการรวมทั้งสิ้น 5.95 ล้านคน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 80.7% และมีปริมาณการขนส่งสินค้ากว่า 1.1 ล้านตัน ลดลง 4.3% ซึ่งจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารได้รวมเที่ยวบินพิเศษขาเข้าระหว่างประเทศภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลด้วยแล้ว

น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ ทสภ. เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2549 รวมระยะเวลา 15 ปี มีผู้โดยสารใช้บริการแล้วทั้งสิ้นกว่า 692 ล้านคน ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศรวมทั้งหมด 18.6 ล้านตัน ปริมาณเที่ยวบินรวมทั้งสิ้นกว่า 4.3 ล้านเที่ยวบิน

ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงเดินหน้าพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการผู้โดยสารในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาและยกระดับให้สุวรรณภูมิ คงความเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชีย ประตูสู่นานาชาติของไทยและเป็นกลไกลหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า การลงทุนของประเทศให้เติบโตต่อไป

อาทิ โครงการก่อสร้างอาคารจอดรถด้านทิศตะวันออก อาคารจอดรถโซน 2 ส่วนต่อขยาย มีช่องจอดจำนวน 484 ช่องจอด ซึ่งหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย. 2565 จะสามารถเพิ่มช่องจอดรถให้สามารถจอดรถได้จำนวน 1,022 ช่องจอด, การปรับปรุงอาคารจอดรถโซน 2 และ อาคารจอดรถโซน 3 และติดตั้งระบบจัดเก็บค่าบริการจอดรถยนต์แบบอัตโนมัติ (Auto Pay) ใช้งานด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล โดยสามารถดูจำนวนช่องจอดได้แบบ Real Time และในอนาคตจะสามารถดูจำนวนช่องจอดรถ ที่สามารถใช้งานได้ผ่านทาง AOT Airports Application

โครงการพัฒนาระบบรถรับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล โดยมีการเชื่อมต่อข้อมูลระบบบริหารจัดการรถรับจ้างสาธารณะ (รถแท็กซี่) เช่น ระบบกดตั๋วโดยสารรถรับจ้างฯ (KIOSK) กับ AOT Airports Application ทำให้ผู้โดยสารผู้ใช้บริการสามารถจองคิว และกดตั๋วโดยสารได้จาก Application ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างแม่นยำและได้รับความสะดวกสบายจากการใช้บริการมากขึ้น

น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทสภ. ยังได้ให้ความสำคัญในด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศ อาทิ โครงการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก (PPL) เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าและมาตรฐานการตรวจสอบสินค้าเกษตรให้แก่ผู้ส่งออกและเกษตรกรของไทย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจี คาร์โก้ จำกัด และ บริษัทเอกชนหลายแห่งที่ให้ความร่วมมือส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานสินค้าการเกษตรของไทยให้ทัดเทียมนานาชาติโดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565

โครงการติดตั้งระบบออกบัตรคิวอัตโนมัติ (AOT Free Zone Smart Queue Application) และจะดำเนินการพัฒนาระบบในส่วนของการจองคิวล่วงหน้าแบบออนไลน์ผ่าน Mobile Application (FZ Smart Queue) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการและเพื่อความปลอดภัยตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing), โครงการปรับปรุงสำนักงานศุลกากรฝ่ายสืบสวนและปราบปรามทั้ง 4 โครงการ มีกำหนดเวลาแล้วเสร็จประมาณเดือนธ.ค. 2565 เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน