นายฮาว ริ เร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า บริษัทเร่งเดินหน้าไปสู่ดิจิตอล จากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดีแทคให้ความสำคัญลงทุนในระบบดิจิตอลต่อเนื่อง โดยเเบ่งเป็นส่วน 3 ส่วน
ได้แก่ ยกเครื่องระบบปฏิบัติการเป็นดิจิตอล เร่งเปลี่ยนผ่านบริการให้บริการและการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในแบบเฉพาะตัว รวมถึงการขยายบริการดิจิตอลให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้นผ่านรูปแบบการทำงานแบบเอไจล์กับพันธมิตรในอุตสาหกรรมอื่น เพื่อออกแบบบริการให้เข้าถึงทุกคนได้มากขึ้น
เป็นผลมาจากอัตราการปรับใช้ดิจิตอลเพิ่มขึ้น ศูนย์บริการดีแทคได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบดิจิตอลเป็นแบบไร้กระดาษ 100% ด้วยระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากการที่ใช้คนทำงานจำนวนมาก ร้านตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 90% ได้ใช้เครื่องมือดิจิตอลในกิจกรรมการขายและบริการในแต่ละวัน ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายดีแทคดิจิตอลทะลุ 70% ทั้งแบบเติมเงิน ชำระค่าบริการ และการซื้อบริการเสริมผ่านช่องทางของดีแทคเองและช่องทางอื่นๆ
“ปัจจุบันลูกค้าดีแทคมากกว่า 46% ใช้งานดิจิตอลแอคทีฟต่อเดือน จากการมุ่งเน้นให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการดิจิตอลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมในแบบดีทั่วดีถึง ส่งผลให้อัตราผู้ใช้งานผ่าน ดีแทคแอพในกลุ่มลูกค้าในระบบเติมเงินโตขึ้น 3 เท่า และพบการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 124% ในกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ซึ่งดีแทคได้พัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการดิจิตอลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทำให้มีลูกค้าดีแทคสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ผ่านช่องทางดิจิตอลได้มากขึ้น โดยแต่ละวันมีลูกค้าดีแทคราว 1 ล้านคนใช้บริการผ่านช่องทางดิจิตอลของดีแทค”
ช่องทางการขายดิจิตอลได้ขยายออกไปอย่างไร้รอยต่อ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ด้วยการก้าวข้ามช่องทางในดีแทคเองขยายสู่ตลาด เช่น Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึง โซเชี่ยลมีเดียอย่าง LINE , Facebook และ WeChat โซเชี่ยลคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นอีคอมเมิร์ซที่ขับเคลื่อนโดยโซเชี่ยลมีเดีย ได้เติบโตขึ้นเป็นโมเดลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานระหว่างช่องทางดิจิตอลและหน้าร้าน ลูกค้าจะสามารถทำธุรกรรมดิจิตอลที่คุ้นเคยได้อย่างง่ายดาย
ดีแทคตั้งเป้าที่จะขยายบริการไปสู่บริการที่มากกว่าการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ด้วยการก้าวข้ามช่องทางในดีแทคเองขยายสู่ตลาด เช่น Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงโซเชี่ยลมีเดียอย่าง LINE , Facebook และ WeChat
ซึ่งปัจจุบันโซเชี่ยลคอมเมิร์ซ ขับเคลื่อนให้อีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างมาก โดยจะได้เห็นบริการใหม่ในไตรมาสที่ 4 นี้ และดีแทคตั้งเป้าผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 10 ล้านคนต่อเดือน และการเติบโต 5 เท่าในปี 2566
