ส.อ.ท.ปลื้มความเชื่อมั่นอุตฯ ฟื้น 2 เดือนต่อเนื่อง สัญญาณไฮซีซั่นหนุนเศรษฐกิจ วอนรัฐเร่งฉีดวัคซีนจังหวัดท่องเที่ยวรับเปิดประเทศ

ส.อ.ท.ปลื้มความเชื่อมั่นอุตฯ ฟื้น – นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีเดือนต.ค. 2564 อยู่ที่ระดับ 82.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 79.0 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในทุกขนาดอุตสาหกรรมและทุกภูมิภาค เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่มีทิศทางดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลง จำนวนผู้ได้รับวัคซีนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว

“การเปิดประเทศเราระมัดระวังค่อนข้างมาก มาตรฐานด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไม่ได้ลดลง จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และผู้เสียชีวิตน้อยลง มีการฉีดวัคซีนได้เกือบ 80 ล้านคน ทำให้คนมีความเชื่อมั่น คนออกเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้เป็นปกติมากขึ้น บรรยากาศการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ซึ่งมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ มากมายน่าจะกลับมาดำเนินงานได้ จึงเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวให้กลับมามีรายได้ สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ชัดเจนขึ้น”

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี

นอกจากนี้ ยังเห็นได้จากแรงงานต่างด้าวที่เริ่มกลับมาเข้าทำงานในไทยมากขึ้น เบื้องต้นประเมินความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมไทยไม่ต่ำกว่า 500,000 คน โดยส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานต่างด้าวที่เดินทางกลับประเทศตัวเองในช่วงที่ไทยมีการระบาดหนักก่อนหน้านี้ ก็ต้องการกลับเข้ามาทำงานในไทยจำนวนมากเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอาหารที่น่าจะมีความต้องการแรงงานสูงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการส่งออกไทยที่เติบโตกว่า 10%

สำหรับการพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนม.ค.-เม.ย. 2565 ที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามค่าเชื้อเพลิงนั้น ยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะหากค่าไฟฟ้าปรับขึ้นทุกคนต้องเดือดร้อนแน่นอน เราทุกคนจึงยังไม่พร้อมที่จะรับภาระค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น และอยากขอให้รัฐบาลดูแลแบ่งเบาภาระค่าไฟต่อไปอีกสัก 1 ปี เพื่อชดเชยความเสียหายจากผลกระทบของโควิด ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นายศุภรัตน์ สิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ดีขึ้นทุกตัว อุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่องทั้งสินค้าคงทน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกลและโลหะการ เป็นต้น รวมถึงสินค้าไม่คงทนประเภทอาหารและยา ประกอบกับเริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ในกลุ่มสินค้าอาหารและสินค้าแฟชั่น ส่งผลให้ดัชนีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น และมาตรการภาครัฐยังช่วยพยุงกำลังซื้อในประเทศ

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 95.0 จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 93.0 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นว่าการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 แบบค่อยเป็นค่อยไป รวมทั้งนโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 การอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว (ตามเงื่อนไข) รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2564 ภาคการส่งออกยังคงขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก

ทั้งนี้ ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ อยู่ในระดับต่ำกว่า 100 สะท้อนว่าความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยังอยู่ในระดับที่ไม่ดี เพราะยังมีความกังวลเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กระทบต้นทุนการผลิตและค่าขนส่ง ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้นำเข้า รวมทั้งปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และอัตราค่าระวางเรือสูงยังเป็นปัจจัยกดดันผู้ส่งออก

อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ให้เร่งฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชนตามเกณฑ์ขั้นต่ำเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยเฉพาะจังหวัดที่เปิดรับนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ภาครัฐควรมีแผนรองรับการเปิดประเทศ มีมาตรการด้านสาธารณสุขที่ชัดเจน

พร้อมการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวรับทราบ เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมและส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และขอให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน ราคาวัตถุดิบ ค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อต้นทุนประกอบการภาคอุตสาหกรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน