นายพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดร้านค้าปลีกสุขภาพและความงามที่ผ่านมาในปีนี้มีอัตราเติบโต 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคคนไทยหันมาดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น และหาซื้อสินค้าเพื่อป้องกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการทำงานอยู่บ้าน ทำให้มีเวลาทั้งสุขภาพและความงามไปพร้อมๆ กัน ส่งผลให้สินค้าเพื่อความงามมียอดขายที่ดี โดยเฉพาะผ่านช่องทางออนไลน์

สำหรับวัตสัน ประเทศไทย ปีนี้ครบรอบ 25 ปี เดินหน้ารุกตลาดเต็มที่ ทำให้ช่องทางออนไลน์ของวัตสันมีอัตราการเติบโตถึง 2.5 เท่า และยอดซื้อต่อครั้งมากกว่าช่องทางออฟไลน์ หรือ ร้านค้าสาขา อีกด้วย สอดคล้องกลยุทธ์หลักการดำเนินธุรกิจในปีนี้ของวัตสัน คือ O+O (Offline + Online) คือการสร้างและผสมผสานประสบการณ์การช็อปปิ้ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดีขึ้นแบบไร้รอยต่อ เพื่อให้บริการลูกค้าได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

ปัจจุบันช่องทางจำหน่ายของวัตสัน ประกอบด้วย ร้านสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ ส่วนออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ช่องทางผ่านทั้งเว็บไซต์ watsons.co.th และแอพพลิเคชั่น Watsons TH รวมทั้ง แอพพลิเคชั่นของมาร์เก็ตเพลส สำหรับบริการ มี Click & Collect ที่ลูกค้าสามารถเลือกช็อปสินค้าผ่านเว็บไซต์ หรือแอพพลิเคชั่น แต่เลือกรับสินค้าที่สาขาใกล้บ้านโดยไม่มีขั้นต่ำสำหรับค่าจัดส่ง และ Watsons Chat & Shop คือการช็อปวัตสันผ่านไลน์ประจำสาขา โดยมีผู้ช่วยช็อปสินค้าแทนลูกค้าผ่านแอดไลน์สาขาวัตสัน

นอกจากนี้การลงทุนเพิ่มสาขายังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยปีนี้เปิดได้ตามแผน 50 สาขาใหม่ ทำให้สิ้นปีนี้จะมีสาขาทั่วประเทศที่ 640 สาขา และในปี 2565 มีแผนเพิ่มอีกอย่างน้อย 50 สาขา ซึ่งจะเปิดเน้นทำเลในแหล่งชุมชน ที่อยู่อาศัย เพราะหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อสินค้าใกล้บ้านแทน ขณะเดียวกันจะชะลอการเปิดในทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวที่หายไป ส่วนทำเลในห้างค้าปลีก ยังให้ความสำคัญเหมือนเดิม แม้ในปีนี้จะมีห้างและศูนย์การค้าใหม่เปิดตัวน้อยมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน