กองสลากฯ เดินหน้า คุมราคาหวย 80 บาท งัด 3 แผน เปิดแผงดอทคอมรับฝากขายลอตเตอรี่เอง พร้อมรื้อโควตาจองซื้อแสนราย ลงทะเบียนใหม่ 1-31 ม.ค. 2 แสนราย ตัดสิทธิ์ข้าราชการ มนุษย์เงินเดือน ลุยเพิ่มจุดจำหน่ายทุกอำเภอทั่ว มีผลงวด 2 พ.ค.2565

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.64 นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งเกินราคา (โรดแมป) ในปี 2565 รวม 3 แนวทาง เพื่อให้มีสลากกินกินแบ่งรัฐบาล หรือ ลอตเตอรี่ วางจำหน่ายได้จริงในราคา 80 บาท โดยสาเหตุของปัญหาสลากเกินราคาขณะนี้ นอกจากความต้องการตัวเลขของผู้ซื้อสลากไปขายแล้ว ยังมาจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้มีผู้สนใจมาขายสลากเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 แสนรายเป็นกว่า 4 แสนราย ทำให้สลากมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการขาย

สำหรับ 3 แนวทางประกอบด้วย 1.ขยายจุดจำหน่ายโครงการสลาก 80 บาท (GLO Official Seller) ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องไปในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง ก็จะขยายไปทั่วประเทศ ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง โดยจัดให้มีการจำหน่ายอำเภอละ 1 จุด รวมทั้งหมดไม่เกิน 1,000 จุดทั่วประเทศ เปิดให้ผู้ที่ได้สลากในระบบโควตา เข้าร่วมโครงการ โดยจะได้รับการจัดสรรรายละ 25 เล่ม ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค. คัดกรองคุณสมบัติ 50 วัน และจะแรนดอมผู้ได้รับสิทธิ์ โดยกำหนดให้วางขายงวดแรกในงวด 2 พ.ค.2565 ต้องการการซื้อขายผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังเท่านั้น

2.ยกเลิกผู้รับสิทธิ์ในระบบลงทะเบียนจองซื้อเดิมกว่า 1.5 แสนราย สามารถรับสลากไปจำหน่ายงวดสุดท้ายคือ 16 เม.ย.และเปิดให้ลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด 2 แสนราย ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.นี้ โดยกำหนดคุณสมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ที่แม่นยำ ถึงมือผู้ที่ต้องการนำสลากไปขายจริง ไม่ขายช่วง พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ ห้ามให้มีมีรายได้ประจำ มนุษย์เงินเดือน ข้าราชการ รับสลากไปจำหน่าย โดยสามารถจำหน่ายสลากงวดแรกได้ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. เช่นเดียวกัน

“การคัดกรองรอบใหม่นี้จะมีความเข้มข้น โดยใช้ฐานข้อมูลของหน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยคัดกรอง ให้ผู้ที่ควรได้รับสลากไปจำหน่าย จะขายสลากได้ 80 บาทจริง โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ รายที่เคยถูกตัดสิทธิ์ไป ก็จะให้โอกาสมาลงทะเบียนรอบนี้ได้ทั้งหมด ถ้ามีผู้สมัครเกิน 2 แสนคนก็จะใช้วิธีเรียงลำดับสุ่ม”

นายลวรณ กล่าวว่า การเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาสลากพอสมควร เพราะกลุ่มนี้เป็นรายย่อยที่มีสัดส่วนกว่า 72% ของจำนวนสลากที่พิมพ์อยู่ปัจจุบันที่ 100 ล้านฉบับต่องวด และจะมีเงื่อนไขว่า จะต้องมายืนยันตัวตนอีกครั้งว่าเป็นผู้ขายสลากจริงภายใน 30 วัน ไม่ใช่ตัวแทน นอมินี เป็นพ่อค้าคนกลาง ยี่ปั๊วซาปั๊วมารับสลากไปขาย และจะเปิดให้มีการลงทะเบียนใหม่ทุก ๆ 2 ปี และจะได้รับจัดสรรสลากไปจำหน่ายรายละ 5 เล่มเหมือนเดิม

สำหรับแนวทางที่ 3 จะเปิดช่องทางการจำหน่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ แพลตฟอร์ม หรือ มาร์เก็ตเพลส ของสำนักงานสลากเอง โดยรายย่อยในระบบจองซื้อ สามารถเลือกได้ว่า จะนำสลากที่ได้รับจัดสรรงวดละ 5 เล่ม จะเลือกรับเป็นเล่มแบบใบสลาก ไปจำหน่ายเอง ในราคา 80 บาท หรือ รับเป็นสลากแบบใบในระบบ โดยแจ้งฝากขายกับ แพลตฟอร์มของสลาก นำเข้าระบบ โดยสำนักงานสลากจะเก็บสลากตัวจริงไว้เป็นหลักฐานในการขึ้นรางวัล ประชาชนที่จะซื้อสลากผ่านแพลตฟอร์ม ต้องมีการลงทะเบียนผู้ซื้อและจ่ายเงินเข้าตัวแทนจำหน่ายผ่านระบบเป๋าตัง โดยคาดว่าระบบจะแล้วเสร็จในนเดือน พ.ค.นี้

ทั้งนี้ ยืนยันว่าการตรวจสอบสลากเกินราคาจากนี้จะมีความเข้มข้นมากขึ้น สลากทุกใบไม่ว่าจะขายผ่านทางช่องทางใด ที่มีลักษณะรับขายต่อกันเป็นทอด ๆ จะสามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นสลากที่มาจากที่ใด หรือแม้แต่มีการปิดหน้าสลาก ก็สามารถตรวจสอบได้ หากมีการขายเกินราคา ก็จะถูกตัดสิทธิ์รับเป็นตัวแทนไปตลอดชีวิต

“คาดว่าทั้ง 3 แนวทางจะส่งผลกระทบต่อผู้ขายสลากนอกระบบ และผู้จำหน่ายในระบบดอทคอม ต่างๆ ทำให้ตลาดนี้ต้องขายในราคา 80 บาท โดยรูปแบบการจำหน่ายยังเป็นแบบใบเหมือนเดิม ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพียงแต่เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเท่านั้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน