ผวาคลัสเตอร์คลัง นายแบงก์ลุ้น รมว.คลัง ตรวจโควิดหรือไม่ หลังโดด ร่วมงาน ด้านปลัดคลัง สั่ง WFH ยกกระทรวง 14 วัน
วันที่ 25 ธ.ค.2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดระลอกต่างๆได้ดี มีทีมงานสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และท่านนายกรัฐมนตรีก็ถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนจะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา
“ในส่วนของกระทรวงการคลัง ที่ผ่านมาผมและผู้บริหารระดับสูงได้กำชับให้ทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานในกำกับ ปฏิบัติตนตามข้อแนะนำของทางสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ทั้งการเว้นระยะห่างทางสังคม การสลับกันมาปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติงานนอกสถานที่ (Work from Home) การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อการบริการประชาชนบนพื้นฐานของการทำงานแบบ นิว นอร์มอล การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิดป็นประจำทุกสัปดาห์
การรณรงค์ให้บุคลากรเข้ารับวัคซีน การจัดหาชุดตรวจเอทีเค เพื่อคัดกรองบุคลากรที่มีความเสี่ยง และ การให้ความรู้บุคลากรในการดูแลตัวเอง ทั้งการปฏิบัติงานและการดูแลเรื่องส่วนตัว ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาด นอกจากนี้ยังจัดทำรายงานสถานการณ์ผู้มีความเสี่ยงและผู้ติดเชื้อโควิดเป็นประจำทุกวัน เพื่อใช้ในการติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดของบุคลากรกระทรวงการคลัง ”
รมว.คลัง กล่าวต่อว่า สำหรับปัจจุบัน เมื่อมีสายพันธุ์ใหม่อย่าง “โอมิครอน”เข้ามาในประเทศ กระทรวงการคลังก็ได้ยกระดับการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐาน D-M-H-T-T ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำล่าสุด ผมอยากให้ประชาชนทุกท่านเชื่อมั่นในการให้บริการของกระทรวงการคลัง โรคระบาดแม้จะมีความเสี่ยงสูง แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถป้องกันได้ เราให้ความสำคัญกับการดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามาโดยตลอด
พร้อมๆ กับการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามข้อกำหนดทางด้านสาธารณสุข ทั้งในขณะปฏิบัติงาน และการใช้ชีวิตนอกเวลางาน รวมถึงการเตรียมเทคโนโลยีที่ทันสมัยให้พร้อมในการให้บริการ เตรียมแผนบริหารความเสี่ยงที่จำเป็น เตรียมการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่ต้องให้บริการประชาชนในส่วนหน้า ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานต่างๆ เพื่อการให้บริการประชาชนของเราจะยังคงมีประสิทธิภาพ และแม้จะมีการระบาดของโรคมากน้อยเพียงใด แต่ประชาชนจะต้องได้รับบริการที่รวดเร็วและมีมาตรฐานจากกระทรวงการคลังเช่นเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เข้าตรวจหาเชื้อ และพบว่าติดโควิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมาขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัว และสั่งการให้ข้าราชการกรม ที่ทำงานใกล้ชิดในช่วงที่ผ่านมา เร่งไปตรวจหาเชื้อ ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันข้อมูลจากกรมสรรพากรว่า มีข้อราชการรายใดติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมทั้งชนิดสายพันธุ์ของเชื้อที่อธิบดีกรมสรรพากรติดมานั้นก็ยังไม่มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ
อย่างไรก็ดี ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเอกนิติ ได้เข้าร่วมประชุม และ แถลงมาตรการของขวัญปีใหม่ ร่วมกับ รมว.คลัง ปลัดกระทรวงการคลัง อธิบดี และข้าราชการระดับสูง สังกัดกระทรวงการคลัง โดยล่าสุด นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ตรวจหาเชื้อและไม่พบว่าติดโควิด และเริ่มกักตัว 14 วันแล้ว โดยได้สั่งการภายในว่าขอให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติตามข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และมาตรการของ ศบค. ล่าสุดอย่างเข้มงวด เช่น ขยายการเวิร์คฟอร์มโฮมหลังของหน่วยงานในสังกัด วันที่ 1 ม.ค.ไป 14 วันและการห้ามเดินทางออกนอกประเทศยกเว้นมีเหตุจำเป็นเพื่อป้องกันการแพทยระบาดของ โควิด-19 ทุกสายพันธุ์
จากการสอบถามทีมงานของ รมว.คลัง ยังไม่ได้รับการยืนยันว่า นายอาคม ได้มีการตรวจหาเชื้อแล้วหรือไม่ แต่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอาคมได้ประชุมร่วมกับ ข้าราชการกระทรวงการคลัง รวมทั้งเดินเปิดงาน
ล่าสุดได้ร่วมมอบรางวัลมหกรรมการเงินมันนี่เอ็กซ์โปที่เมืองทองธานี และร่วมเดินชมบูธ ทำให้ ผู้บริหารธนาคารหลายแห่ง วิตกกังวลว่า รมว.คลัง มีผลการตรวจโควิด พบเชื้อหรือไม่ และนายอาคม ยังมีหมายร่วมแถลงข่าวกับ ธนาคารออมสินวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ซึ่งยังไม่มีการยกเลิกกำหนดการ
