ธนาคารแห่งประเทศไทยหวั่นโอมิครอนซัดเศรษฐกิจม.ค.แผ่ว ส่วนไตรมาส 4/64 สดใสได้อานิสงส์มาตรการรัฐ-ส่งออก

ธปท.หวั่นโอมิครอนซัดศก. – น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ทิศทางของเศรษฐกิจไทยในเดือนม.ค. 2565 ประเมินว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลงบ้าง จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะเดียวกันยังต้องติดตามสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศ ปัญหาในภาคการผลิต รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ทั่วไปและการกลายพันธุ์ด้วย

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4/2564 มีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาล อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังมีการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ขณะที่การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากทั้งอุปสงค์ในประเทศคู่ค้าที่ฟื้นตัว และปัญหาซับพลาย ดิสรัปชั่นที่ทยอยคลี่คลายลง ซึ่งมีส่วนทำให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับดีขึ้น

ขณะที่เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้นตามภาวะอุปสงค์และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ฟื้นตัว ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นตามราคาพลังงานและราคาอาหารสดเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่โดยรวมยังคงเปราะบาง ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลน้อยกว่าไตรมาสก่อน

“หากพิจารณาจากดัชนีเศรษฐกิจต่างๆ พบว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 4/2564 นั้นน่าจะฟื้นตัวและโตได้ดีกว่าไตรมาส 3/2564 และดีกว่าที่คาดการณ์อยู่บ้าง โดยเฉพาะภาคการส่งออกและท่องเที่ยว แต่หากถามว่าในไตรมาส 4 ขยายตัวเท่าไหร่ และทั้งปี 2564 จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอดูตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์” น.ส.ชญาวดี กล่าว

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนธ.ค. 2564 พบว่า ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยขยายตัวที่ระดับ 23% โดยเฉพาะหมวดยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้รับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และปัญหาการขนส่งคลี่คลาย ทำให้มีการผลิตและเร่งส่งออกตามคำสั่งซื้อที่คงค้างในช่วงก่อนหน้า

นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเร่งขึ้นหลังการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 แม้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมยังไม่มาก เนื่องจากหลายประเทศยังคงมีมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศอยู่ ขณะที่การใช้จ่ายในประเทศของภาคเอกชนปรับดีขึ้นทั้งการบริโภคและการลงทุน ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและกิจกรรมในภาคบริการปรับดีขึ้น ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเช่นกัน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในประเทศที่ดีขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และรายได้ของครัวเรือนฟื้นตัวต่อเนื่อง

น.ส.ชญาวดี กล่าวอีกว่า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปชะลอลงตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงาน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานทรงตัวจากเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานทยอยปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาขาดดุลจากดุลการค้าที่เกินดุลน้อยลง จากการนำเข้าทองคำที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับดุลรายได้ บริการ และเงินโอนขาดดุลเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลง จากแนวโน้มนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นในประเทศอุตสาหกรรมหลัก ประกอบกับมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน