นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า ปี 2565 เตรียมทุ่มงบลงทุนกว่า 30,000-35,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการด้านโครงข่ายรองรับการเติบโตของลูกค้าในปีนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ณ สิ้นปี 2564 มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดกว่า 44.1 ล้านเลขหมาย พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยเทคโนโลยี 5G ที่ครบ 77 จังหวัด โดยมองภาพใหญ่ของประเทศที่ต้องอาศัยโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลเทคโนโลยีที่แข็งแรง เพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ใช้เป็นจุดแข็งของประเทศในการแข่งขันและดึงดูดนักลงทุน

สำหรับผลประกอบการในปี 2564 เอไอเอสมีรายได้รวม อยู่ที่ 181,333 ล้านบาท เติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนกำไรสุทธิ 26,922 ล้านบาท ลดลง 1.9% เทียบกับปีก่อน ในส่วนของต้นทุน เอไอเอสยังลงทุนขยายโครงข่าย 5G/4G อย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความเป็นผู้นำ และการเข้ารับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพิ่มเติมในปีนี้ (ใบอนุญาต 700MHz และ 26GHz) ส่งผลให้ต้นทุนการให้บริการเพิ่มขึ้น 4.5 เทียบกับปีก่อน แต่จากการบริหารต้นทุนที่ดีในส่วนของค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหาร ที่ลดลง 11% จากปีก่อน ส่งผลให้เอไอเอสมีกำไรจากการดำเนินธุรกิจ (EBITDA) อยู่ที่ 91,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อน

ผลการดำเนินงานแยกตามรายธุรกิจดังนี้ ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีรายได้ลดลงเล็กน้อยที่ 0.7% จากปีก่อน อยู่ที่ 117,244 ล้านบาท เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบใหม่ตลอดทั้งปี ประกอบกับการแข่งขันที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคา แต่ด้วยการปรับตัวและนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ทำให้ในปี 2564 มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 2.68 ล้านเลขหมาย ส่วนการเติบโตของผู้ใช้บริการ 5G มีผู้ใช้บริการ แล้วกว่า 2.2 ล้านราย

ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ยังสามารถทำผลงานได้ดีมีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น 435,100 ราย ทำให้เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้ารวม 1,772,000 ราย ทะลุเป้าหมาย 1.6 ล้านครัวเรือนที่ตั้งไว้ในปี 2564 ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 18% และธุรกิจดิจิทัลเซอร์วิส ในปีที่ผ่านมาเอไอเอสยังคงเดินหน้ามุ่งเสริมความเป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล ผ่านการร่วมมือกับพันธมิตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน