สธ.-คมนาคม ถก สายการบิน ลดอุปสรรคTest and Go-แอร์เอเชีย อ้อนลดเงินคุ้มครองประกันโควิดเหลือ 3 หมื่นดอลลาร์ ดูดนักท่องเที่ยวเข้าไทย

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแคปปิตอล เอ (กลุ่ม แอร์ เอเชีย) และข้าราชการระดับสูงกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานด้านการบินในสังกัดวันนี้(22ก.พ.)ว่ารัฐบาลไทยได้ร่วมรับฟังความคิดเห็นจาก สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและสายการบิน เพื่อวางแผนในฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นกลไกลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยเฉพาะการปรับปรุงกฎระเบียบแนวทางด้านมาตรการสาธารณสุขและการเดินทางระหว่างประเทศให้มีความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายในภาพรวมของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งแอร์เอเชียเสนอขอให้รัฐบาลปรับลดวงเงินคุ้มครองขั้นต่ำการทำประกันภัยโรคโควิด-19 สำหรับต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยให้เหลือ 3 หมื่นดอลลาร์ จากปัจจุบัน 5 หมื่นดอลลาร์ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าไทยมากขึ้น

นายโทนี่ กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลลดข้อบังคับต่าง ๆ จากมาตรการ Test and Go และ Thailand Pass เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจไม่ตัดสินใจเดินทางระหว่างประเทศ ให้ดูต้นแบบประเทศฟิลิปปินส์ที่ นอกจากนี้ แอร์เอเชียยังมีแผนที่จะเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางใหม่ ๆ ในรูปแบบบินตรง กับต่างประเทศ และแผนที่พัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางอากาศของภูมิภาคอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมจะนำข้อเสนอทั้งหมดรวบรวม เพื่อเสนอในการประชุม ศบค. ชุดเล็กในวันที่ 23 ก.พ. และได้ขอให้แอร์เอเชีย ลงทุนในเครื่องบิน ATR เพื่อเปิดธุรกิจเส้นทางการบินเชื่อมเมืองท่องเที่ยวและเมืองสำคัญต่าง ๆ ในมาเลเซีย กับ ท่าอากาศยานเบตง เพื่อนำไปสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเชื่อมโยงการเดินทางไปยังภูมิภาคอื่นของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ จากการรวบรวบข้อมูลของสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย พบว่า ระหว่างเดือนพ.ย. 2564 ถึงม.ค. 2565 เส้นทางการบินภายในประเทศที่มีผู้โดยสารใช้บริการสูงสุด อันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ 923,714 คน อันดับ 2 คือ กรุงเทพฯ – ภูเก็ต 695,557 คน และอันดับ 3 คือ กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ 474,152 คน เส้นทางการบินระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารใช้บริการสูงสุด อันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ – ดูไบ 76,671 คน อันดับ 2 คือ กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ 74,446 คน และอันดับ 3 คือ กรุงเทพฯ – โดฮา 72,008 คน

รวมถึงได้ประมาณสถานการณ์แนวโน้มการฟื้นตัวของผู้โดยสารระหว่างประเทศไว้ 3 กรณี ได้แก่ กรณีดีที่สุด (Best Case) กรณีฐาน (Base Case) และกรณีเลวร้ายที่สุด (Worst Case) เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการตาม มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดฯ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน