การบินไทย อวดกำไร 5.5 หมื่นล้าน –มี.ค.เซ็นกู้เงิน 2.5หมื่นล้าน ประคองธุรกิจ-ปีนี้ เล็ง เปิดบิน อินเดีย-เกาหลี-ญี่ปุ่น
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2564ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 19,702 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อน 15,712 ล้านบาท (44.4%) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 23,747 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 24,684 ล้านบาท หรือ 51%
เนื่องจากรายได้ จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง 24,599 ล้านบาท (59.9%) และรายได้จากบริการอื่นๆ ลดลง 1,545 ล้านบาท แต่มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 1,460 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้ที่เกิดจากข้อตกลงระงับข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการชำรุดของเครื่องยนต์
ส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานรวมอยู่ที่ 43,449 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 40,396 ล้านบาท (48.2%) เนื่องจากแปรผันตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่ลดลง และบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นรายได้จำนวน 81,525 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน การปรับโครงสร้างและขนาดองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 จำนวน 55,113 ล้านบาท
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างจัดหาเงินกู้ จำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท กับเจ้าหนี้รายเดิม 5 ราย คือ ธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กสิกรไทย ออมสิน และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยนำสินทรัพย์บริษัทมูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาททั้งฝูงบิน และอสังหาหริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาทมาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน คาดลงจะลงนามในสัญญากู้เงินภายในมี.ค. นี้
โดยจะนำเงินมาจ่ายคืนค่าตั๋วโดยสาร 1หมื่นล้านบาท จ่ายชดเชยพนักงานลาออก 4 พันล้านบาท ที่เหลืออีก1.1 หมื่นล้านบาท ใช้เป็นทุนหมุนเวียน ส่วนกระทรวงการคลังยืนยันจะไม่ให้เงินกู้แต่จะถือหุ้นการบินไทยอย่างน้อย40% ต่อไป คาดว่าจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวกได้เร็ว และทำให้การบินไทยออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้ก่อน 5 ปีตามเป้า
นายปิยสวัสดิ์กล่าวถึงผลกระทบราคาน้ำมันจากปมขัดแย้งรัสเซียยูเครนว่า ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นทั่วโลก แต่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนน้อยลงกว่าอดีตเพราะได้ปรับฝูงบินมาใช้เฉพาะรุ่นประหยัดน้ำมัน คาดว่าจะส่งผลกระทบไม่มาก ขณะที่ไทยได้มีการเปิดประเทศและกลับมาใช้test and Go ทำให้คาดว่าปลายปีนี้ จะสามารถเปิดบินระหว่างประเทศเพิ่ม คือเมลเบิร์นและอินเดีย ในไตรมาส 2 ซาอุดีอาราเบีย และเกาหลี และญี่ปุ่น ช่วงปลายปี
