นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทวางงบลงทุนไว้ 14,000-15,000 ล้านบาท สำหรับการดำเนินธุรกิจในกลุ่มบีเจซี โดยงบลงทุนในสัดส่วน 70% จะใช้ในธุรกิจห้างค้าปลีกบิ๊กซี ทั้งในการขยายสาขาใหม่ และปรับปรุงสาขาเดิมในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนที่เหลือใช้ลงทุนในธุรกิจอื่นๆ

สำหรับแผนการขยายสาขาใหม่ของบิ๊กซีในปีนี้เตรียมเปิดบิ๊กซีในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ต (สาขาขนาดใหญ่) 2-3 สาขา แบ่งเป็น ในไทย 1 สาขา ลาว 1 สาขา และกัมพูชา 1 สาขา ส่วนมินิบิ๊กซีวางไว้ 150-300 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวมกันมากกว่า 1,700 สาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ
ในขณะที่กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์, กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค-ดำเนินกิจการด้านการผลิต การตลาด และการกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มอาหารและกลุ่มเครื่องใช้ส่วนตัว และกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตต่อเนื่อง จากผลประกอบการปี 2564 มีรายได้รวม 150,139 ล้านบาท

สำหรับผลกระทบจากสถานการณ์รัสเซียกับยูเครน กลุ่มบริษัทบีเจซีได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ราคาน้ำมันพุ่งไปถึง 110-120 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลแล้ว ซึ่งผลกระทบโดยตรงเป็นส่วนการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตแก้ว และด้านขนส่ง บีเจซีกำลังวางแผนบริหารจัดการว่าจะดำเนินการได้อย่างไร อย่าง ด้านการขนส่ง มีแผนจะปรับเปลี่ยนมาใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทน

ในไตรมาสแรกของปีนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงมากนัก แต่จะเห็นผลกระทบโดยตรงในช่วงปลายเดือนมี.ค.นี้ หรือไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพราะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อไปในเรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ และราคาสินค้าที่จะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มเห็นแล้วในเดือนมี.ค. จากตั้งแต่ต้นปี เดือนม.ค. และก.พ.ที่ผ่านมา กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้นแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน