นายชอว์น เผย์ ผู้จัดการทั่วไป โทรศัพท์มือถือประจำประเทศไทย แซดทีอี คอร์ปอเรชัน ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่และระบบโทรคมนาคม ของประเทศจีน ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน รองจาก หัวเหว่ย และผู้รับจ้างผลิตเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ รายใหญ่อันดับ 4 ของโลก เปิดเผยว่า บริษัทได้กลับมาทำตลาดสมาร์ตโฟนในกลุ่มผู้บริโภคไทยเป็นครั้งที่ 2 หลังมองเห็นโอกาสและศักยภาพสำหรับตลาดสมาร์ตโฟน ที่ปัจจุบันกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวันแบบนิวนอร์มัล นับตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จนถึงขณะนี้
ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคไทยมีการใช้งานสมาร์ตโฟนเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนได้ชัดเจนจากจำนวนผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยที่เติบโตเฉลี่ย 15% ทุกปี และสัดส่วนผู้ใช้งานซื้อของออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือมีมากถึง 70%
ประกอบกับการที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยต่างจัดแคมเปญส่งเสริมการตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคสนใจใช้บริการบนเครือข่าย 5G ทำให้สมาร์ตโฟน 5G คุณภาพดี ในราคาที่เอื้อมถึงง่ายเป็นที่ต้องการในขณะนี้ ทั้งกลุ่มผู้เริ่มใช้สมาร์ตโฟนก็เป็นเซ็กเมนต์ที่ยังมีความต้องการอยู่มาก
โดยกลยุทธ์การทำตลาด จะมีแบรนด์สมาร์ตโฟนของบริษัทในเครือ ทั้ง แซดอีที นูเบีย และโดยเฉพาะ Redmagic ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนในกลุ่มเกมเมอร์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอีโตซิสเต็ม เบื้อต้นเปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่น ในราคาเริ่มต้น 2,599 บาท และเตรียมทยอยเปิดอีก 2-3 รุ่นในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงยังให้ความสำคัญกับการจัดจำหน่ายและช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งจะใช้การบริหารช่องทางแบบออนไลน์ สู่ ออฟไลน์ หรือออมนิ ชาแนล
โดยได้พันธมิตรผู้จัดจำหน่ายชั้นนำ 2 ราย ที่ครอบคลุมพื้นที่ขายในต่างจังหวัด คือ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด ในกลุ่ม เบญจจินดา ให้ร่วมกันช่วยกระจายสมาร์ตโฟนแซดทีอีที่ครอบคลุมทุกช่องทางทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟน 2% ในปี 2565 และจะเพิ่มเป็น 5% ภายใน 3 ปีจากนี้
นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วีเอสที อีซีเอส เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าและโซลูชันไอทีของไทยมากว่า 30 ปี โดยหนึ่งในสินค้าที่บริษัทโฟกัส คือ กลุ่มโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นสำหรับการจัดจำหน่ายสมาร์ตโฟนให้กับ แซดอีที โดยบริษัทจะดูแลรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคตะวันตก กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจัดจำหน่ายผ่านทั้งช่องทางหน้าร้านดีลเลอร์และช่องทางออนไลน์ในพื้นที่ดังกล่าว ปัจจุบันบริษัทมีดีลเลอร์ที่เป็นพันธมิตรในพื้นที่รับผิดชอบกว่า 7,000 ราย
ด้านนายปภาพรต ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วายเอ เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด ในกลุ่มเบญจจินดา กล่าวว่า บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายกลุ่มโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน สำหรับการได้รับแต่งตั้งให้จัดจำหน่ายและจัดส่งสมาร์ตโฟนให้กับแซดอีที ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพฯ และปริมณฑล รับผิดชอบทั้งการจัดจำหน่ายให้กับหน้าร้านขายโทรศัพท์มือถือและช่องทางออนไลน์ในพื้นที่ดังกล่าว รวมจำนวนพันธมิตรช่องทางจัดจำหน่ายในพื้นที่ดังกล่าวกว่า 3,500 ราย ซึ่งบริษัทมองว่าตลาดยังขาดสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่มีคุณภาพ จึงเชื่อมั่นว่าจะสมาร์ตโฟนจากแซดอีที จะได้รับการตอบรับดี โดยเฉพาะสมาร์ตโฟน 5G และสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้น
สำหรับสมาร์ตโฟน 5 รุ่น ที่แซดอีที เปิดตัวล่าสุด ประกอบด้วย ZTE Blade A31plus, ZTE Blade A51, ZTE Blade V30Vita, Axon 30 5G และ Redmagic 7
