หอการค้าฯ ชี้ท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นแม้เปิดประเทศ – จี้รัฐต่อคนละครึ่งเฟส 5 เชื่อช่วยเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจได้ 9 หมื่นล้าน ดันจีดีพีโตเพิ่ม 0.65%

หอการค้าฯ ชี้ท่องเที่ยวไม่ฟื้น – นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า จากการที่ภาคเอกชนเคยเสนอเรื่องการขยายโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ที่ประชุม ศบศ. เห็นชอบและอนุมัติเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์ รวมถึงโครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยจะขยายเวลาถึงเดือนก.ย. นี้

หอการค้าฯ ยังได้เสนอต่อนายกฯ และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้พิจารณาขยายโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ซึ่งหอการค้าฯ รู้ถึงความจำเป็นของงบประมาณภาครัฐที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ แม้จะมีการเปิดเกือบเต็มรูปแบบไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวยังไม่กลับมาทันที กำลังซื้อของประชาชนและสภาพคล่องของภาคธุรกิจยังคงมีปัญหาอยู่ ตลอดจนยังถูกซ้ำเติมจากปัญหาราคาพลังงานที่เพิ่มสูง และราคาสินค้าที่ปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

“เราเสนอให้รัฐบาลขยายมาตรการดังกล่าว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยเสนอให้พิจารณาวงเงิน 1,000-1,500 บาท ต่อคน (30 ล้านคน) ก็จะช่วยให้มีการหมุนเวียนของเม็ดเงินมากขึ้น รัฐบาลจะใช้งบราว 30,000-45,000 ล้านบาท แต่จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยและมีเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 60,000-90,000 ล้านบาท เมื่อคำนวณแล้วจะทำให้ GDP มีตัวเลขดีขึ้นได้ถึง 0.63-0.65% ซึ่งนายกฯ และที่ประชุมรับข้อเสนอ และแจ้งว่าปัจจุบันกระทรวงการคลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดงบประมาณเพื่อให้เกิดความเหมาะสม ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีที่มาตรการดังกล่าวอาจได้รับการตอบรับในเร็ววันนี้”

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีข้อสังเกตในประเด็นที่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง มีความกังวลเรื่องการถูกเก็บภาษีย้อนหลัง โดยหอการค้าไทย เห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปให้รับทราบว่า รัฐบาลมีความตั้งใจที่ดำเนินโครงการคนละครึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน และส่งผ่านกำลังซื้อไปสู่ผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่ม

ซึ่งหากรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ประกอบการจะไม่มีภาระภาษี โดยมองว่าร้านค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการอาจไม่เข้าใจประเด็นนี้ และกลัวที่จะต้องเสียภาษีหากร่วมเป็นร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเน้นทำความเข้าใจส่วนนี้ให้ชัดเจน เพราะรัฐบาลมีความตั้งใจจริงที่จะช่วยประชาชนและ ผู้ประกอบการพร้อมๆ กัน เพื่อเพิ่มยอดขายและกำลังซื้อของประชาชนทั่วไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน